วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2558

12 วิธีคิด ก่อนลงมือเทรด

12 วิธีคิด ก่อนลงมือเทรด


 1. เรียนรู้พื้นฐาน
ฟัง ดูเป็นเรื่องพื้นๆ แต่เทรดเดอร์มือใหม่ส่วนมากมักจะกระโดดเข้าไปในสมรภูมิก่อนที่จะรู้ว่าอะไร เป็นอะไร และแน่นอนว่ามักจะเกิดความผิดพลาดและเสียหายขึ้นกับพวกเขาเหล่านั้น อย่างที่เราเห็นกันบ่อยๆว่ามือใหม่ล้างพอร์ตกันบ่อยๆ ล้างแล้ว ล้างอีก แล้วพวกเขาก็เที่ยวค้นหาอะไรซักอย่างที่จะมาช่วยเค้าให้หลุดพ้นจากจุดนี้ จริงๆแล้วสิ่งที่มือใหม่ควรทำเป็นอันดับแรกก็คือ "เรียนรู้พื้นฐาน" ซะก่อนที่จะโดดลงมาเล่นในตลาดอย่างเต็มตัว

2. คุณจะไม่ได้รวยในทันที ประสบการณ์ทำให้คุณรวย
ถ้า คุณเข้ามาในตลาด Forex เพราะคิดว่ามันจะทำให้คุณรวยได้อย่างรวดเร็ว บอกได้เลยว่าคุณคิดผิดแล้ว คุณจะอยู่ในตลาดได้ไม่นานแล้วก็ต้องออกจากตลาดไป เพราะ "การเทรดคือทั้งหมดที่เกี่ยวกับประสบการณ์" ก็เหมือนกับมืออาชีพในอาชีพอื่นๆ ที่คุณจะต้องเรียนรู้การทำงานในอาชีพนั้นๆ เมื่อสะสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆ งานที่คุณทำก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น และคุณก็จะกลายเป็นมืออาชีพ  เส้นทางที่จะทำให้คุณเทรดเดอร์มืออาชีพนั้นเป็นเส้นทางที่ยาวไกล ต้องจริงจังและอยู่กับมันให้ได้อย่างน้อย 1-3 ปี ก่อนที่จะทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง จำไว้ว่าการเทรด Forex เป็นอาชีพ ดังนั้นถ้าเทรดเดอร์มือใหม่อยากจะทำกำไรให้ได้เหมือนเทรดเดอร์เก๋าๆที่เทรด มานานๆ ก็จงเรียนรู้ ฝึกปฏิบัติ และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เพื่อวันนึงข้างหน้าคุณจะทำได้เหมือนมืออาชีพที่คุณเห็นในวันนี้

3. ผู้เชี่ยวชาญเป็นเรื่องตลก
การ รับฟังความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญนั้นเป็นสิ่งที่ดีแน่นอน แต่ปัญหาที่มีในตลาดเงินก็คือ มีเทรดเดอร์มือใหม่ที่สามรถทำไรได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ และคิดว่าตนเองเป็นผู้เชี่ยวชาญเกิดขึ้นทุกสัปดาห์ และมากกว่านั้นคือผู้เชี่ยวชาญที่อายุ 30-60 ปี แต่งตัวภูมิฐานในชุดสูท ที่อ้างว่าเป็นผู้ประกอบการมืออาชีพ และเรียกร้องให้คุณซื้อหนังสือของพวกเขา คนเหล่านี้มักเป็นคนที่ล้มเหลวจากการทำรายได้จากตลาด และหันมาสร้างรายได้จากการสอนเทรดเดอร์คนอื่นๆด้วยวิธีที่ล้มเหลว ผู้เชี่ยวชาญที่ประกาศตัวเอง มีแนวโน้มที่จะ:

    ให้ข้อมูลเก่าที่ไม่สามารถใช้การได้พวกเขาจะเป็นเทรดเดอร์อาชีพที่เทรดอย่างเดียว และพยายามขายหนังสือให้คุณ
    เรียกร้องในราคาที่แพงแสนแพง และสิ่งที่ได้มาบางทีก็ใช้การอะไรไม่ได้
    พยายามที่จะพิสูจน์ว่าพวกเขาเป็นเทรดเดอร์ที่ทำกำไรได้โดยการโพสต์ภาพของบัญชี ซึ่งเราไม่รู้ว่ามันเป็นของจริงหรือเปล่า
    เป็นคนที่เก่งคำนวณ เพื่อให้ตัวเป็นคนที่ประสบความสำเร็จและน่าเชื่อถือมากขึ้น เช่น เทรดได้กำไรสองครั้ง แต่ ขาดทุนแค่ครั้งเดียว

ดัง นั้นควรต้องระวังเหล่าผู้เชียวชาญที่ไม่เชี่ยวชาญไม่จริงเหล่านี้ไว้ด้วย สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ ควรเช็คให้แน่ใจว่าอันไหนของจริงหรือ ของปลอม อย่าเชื่ออะไรง่ายๆ

4. วิเคราะห์ด้วยตัวเอง
การ เชื่อคนอื่นแบบสุ่มสี่สุ่มห้าจะทำให้คุณเป็นคนตาบอด อย่าลืมว่าเป้าหมายของคุณคือการเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่การเทรดตามซิกที่คนอื่นๆให้มา
การที่จะเป็นเทรดเดอร์ได้นั้น คุณต้องเลือกวีการเทรดเพื่อที่จะทำกำไรและเรียนรู้ที่จะวิเคราะห์ตลาดด้วย ตัวเอง ความสามารถในการวิเคราะห์ของคุณจะทำให้คุณกลายเป็นเทรดเดอร์มือโปร การวิเคราะห์ด้วยตัวเองจะช่วยให้คุณ:

    เป็นคนที่พึ่งพาตัวเอง
    เรียนรู้ในการเทรดอย่างจริงจัง

ถ้า คุณเลือกที่จะหลับหูหลับตาเทรดตามกูรู แล้วคุณจะทำกำไรได้อย่างไรเมื่อกูรูหยุดแจกเคล็ดลับ หรือเคล็ดลับนั้นไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป คุณจะเข้าใจได้อย่างไรว่าทำไมเคล็ดลับมันทำงานในตอนแรก แต่ตอนนี้มันกลับใช้การไม่ได้แล้ว ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณน่าจะเป็น "การพึ่งพาตนเอง"

5. จ้าวตำนานเดโม่
ถ้า คุณอยากจะเป็นนักมวยมืออาชีพแล้วคุณไปซื้อเกมส์ต่อยมวยมาเล่น แล้วเริ่มการฝึกต่อยมวยด้วยวีดีโอเกมส์ แล้วมันจะช่วยให้ต่อยมวยเป็นได้ยังไง ? ก็เหมือนกับการเทรดด้วยบัญชีเดโม่ ที่ทำให้คุณหวังว่าจะเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ
การเทรดด้วยบัญชีเดโม่เป็นเวลา 3 เดือนแล้วไม่ประสบความสำเร็จเมื่อมาเทรดปัญจริงก็เพราะ 2 เหตุผล คือ

    ทำให้มือใหม่มีความมั่นใจแบบผิดๆ และทำให้ซึบซับนิสัยที่ไม่ดี เพราะในการเทรดบัญชีเดโม่และบัญชีจริงจะมีความกดดันที่แตกต่างกัน การเทรดบัญชีเงินจริงจะมีความกดดันมากกว่าหลายเท่า ในขณะที่การเทรดบัญชีเดโม่แทบจะไม่มีความกดดันเลย ก็แน่นอนละเพราะถึงเสีย เราก็ไม่ได้เสียเงินจริง เราๆท่านๆคงเคยได้ยินคำพูดนี้อยู่บ่อยครั้ง "หมูสนามจริง สิงห์สนามซ้อม"
    ประสิทธิภาพของบัญชีเดโม่ มักจะดีกว่าบัญชีจริง ซึ่งรวมถึงความรวดเร็วในการเปิดปิดออเดอร์ รวมทั้งปัจจัยอื่นๆอีกหลายอย่าง

ทางออก ที่ดีที่สุดคือการใช้บัญชีเดโม่ในการเรียนรู้พื้นฐานและการทดสอบระบบหรือหา วิธีการซื้อขาย และเมื่อต้องซื้อขายจริงคุณควรจะเทรดด้วยบัญชีเงินจริง วันนี้คุณสามารถเปิดบัญชีซื้อขายกับโบรคเกอร์ต่างๆได้ด้วยเงินเพียงเล็กน้อย อาจจะเริ่มต้นเปิดบัญชีขั้นต่ำที่ $10-$50  ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่เปิดบัญชีซื้อขายจริง

6. กำจัดแนวโน้มความสูญเสียแต่เนิ่นๆ
สิ่ง สี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพเลยก็ว่าได้ เพราะถ้าเขาเหล่านั้นไม่ยึดกฎข้อนี้อย่างเคร่งครัดพวกเขาอาจมาไม่ถึงจุดนี้
ถ้า คุณเกิดเทรดเสียติดต่อกันถึง 3 ครั้ง ควรจะหนีห่างออกจากราฟ แล้วใช้เวลาอยู่ห่างกราฟซัก 2-3 วัน และกลับมาเทรดใหม่เมื่อหัวของคุณโล่งและพร้อมที่จะกลับเข้าสู่ตลาดใหม่อีก ครั้ง เพราะแนวโน้มของความสูญเสียนั้นอันตรายมาก การเริ่มต้นด้วยการเทรดเสียเล็กๆน้อยๆ สามรถนำไปสู่ความสูญเสียที่ใหญ่มากกว่าเดิมหลายเท่า


7. ทำตามคนส่วนใหญ่
เรา มักจะได้ยินกันบ่อยๆว่า 90% ของเทรดเดอร์มือใหม่นั้นต้องล้มเหลวและเดินออกจากตลาดไป และสิ่งที่จะช่วยได้ก็คือ การเรียนรู้ที่จะพึ่งพาตัวเองด้วยการศึกษาระบบการเทรด หรือศึกษาเกี่ยวกับเครื่องมือต่างๆที่จะใช้ในการเทรดให้มากพอ ทำความเข้าใจหลักการทำงาน เก็บเกี่ยวประสบการณ์ และไม่เป็นผู้ตาม 
ถ้าคุณเป็นมือใหม่ก็ลองคิดถึงเหตุผลดังต่อไปนี้:

    ส่วนใหญ่แล้วเทรดเดอร์มือใหม่มักจะล้มเหลว
    ถ้าคุณทำตามคนส่วนใหญ่ คุณก็จะล้มเหลวเหมือนคนส่วนใหญ่
    ถ้าคุณเป็นคนส่วนใหญ่ คุณก็มีแนวโน้มที่จะล้มเหลวเหมือนพวกเขา

ดังนั้นแล้ว คุณไม่ควรที่จะทำตามคนส่วนใหญ่ทีล้มเหลวเหล่านั้น

8. ทำตามวิธีการของคุณ
วิธี การหรือระบบเทรดทุกแบบจะมีทั้งข้อดีและข้อด้อย ไม่มีวิธีการใด ระบบใด หรือรูปแบบใดที่จะสามารถทำกำไรได้ 100% ตลอดทั้งปี เช่น ปีนี้มีอัตราความสำเร็จทำกำไรได้เฉลี่ยที่ 80% แต่บางช่วงของปีก็ทำได้แค่เพียง 60% และบางช่วงก็ทำได้ถึง 100%
ในแต่ละ ปีจะมีช่วงที่ดีที่ทำกำไรได้ง่าย และช่วงที่ไม่ดีที่ทำให้คุณเทรดเสียได้ง่ายกว่าปรกติปะปนกันเป็นเรื่องปรกติ ที่สำคัญคือ เมื่อคุณเจอช่วงเวลาที่เลวร้าย จงอย่าสูญเสียความเชื่อมั่นในระบบเทรดของคุณ ปัญหาของมือใหม่ก็คือ จะละทิ้งระบบและวิธีการเทรดของตน แล้วไปแสวงหาระบบการทำกำไรใหม่ๆไปเรื่อยๆ

9. ทำให้การเทรดเป็นเรื่องง่ายซะ
มัน ไม่มีเหตุผลที่จะต้องทำให้การเทรดเป็นเรื่องที่ซับซ้อน ตัวอย่างเช่นบางคน อาจจะใช้เวลาเพียง 2-5 ชั่วโมงในการเทรดในแต่ละสัปดาห์ แล้วใช้เวลาที่เหลือไปสนุกกับการใช้ชีวิต ดังนั้นวิธีการเทรดของคุณก็ไม่มีความจำเป็นว่าจะต้องซับซ้อน เพราะมันก็ไม่ได้การันตัว่ายิ่งยุ่งยากแล้วจะทำให้ได้กำไรมากขึ้นซะหน่อย จริงมั้ย? และการทำให้การเทรดง่ายขึ้นนั้น จะช่วยให้ซ

    การเทรดนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    คุณทำงานน้อยลง
    ทำให้คุณเรียนรู้ได้เร็วขึ้น(เพราะคุณมีเวลาเหลือเฟือที่จะใช้ศึกษาเพิ่มเติม)


10. เทรดแค่คู่เงินเดียว
กุญแจ สำคัญที่จะเปลี่ยนมือใหม่ให้เป็นมือโปรคือ ทำให้การเทรดเป็นเรื่องง่าย และวิธีที่ง่ายที่สุดอย่างหนึ่งก็คือการเทรดคู่เงินเพียงคู่เดียวในช่วงเวลา นั้นๆ เพราะมันจะช่วยให้คุณสามารถพุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่คู่เงินเพียงคู่เดียว คุณจะเรียนรู้ถึงพฤติกรรมราคาของคู่เงินนั้นและเข้าใจความเคลื่อนไหวของมัน ได้ ถ้าคุณเทรด 5 คู่ในเวลาเดียวกันมันจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากในการศึกษาพฤติกรรมราคาของ แต่ละคู่เงิน เพราะแต่ละคู่จะมีพฤติกรรมราคาที่แตกต่างกันไป เพราะว่า:

    มีปฏิกิริยาต่อข่าวที่แตกต่างกัน
    มีอัตราการเคลื่อนไหวที่แตกต่างกัน บ้างก็ช้า บ้างก็เร็ว
    มีการเคลื่อนไหวมากๆต่างกันตามช่วงเวลาต่างๆของวัน เช่นบางคู่จะเคลื่อไหวมากในช่วงตลาดสหรัฐ แต่บางคู่จะเคลื่อนไหวมากในช่วงทำการของตลาดเอเชีย
    ต้องมีการจัดการที่แตกต่างกันเวลาที่ถือออเดอร์ บางคู่จะวิ่งเป็นเทรนยาวๆ สามารถถือได้นาน แต่บางคู่จะผันผวนมากจะถือยาวไม่ได้

ดัง นั้น มือใหม่ไม่ควรที่จะเล่นทีเดียวกลายคู่ เพราะจะเพิ่มความเครียดให้มากเกินไป ควรเล่นทีละคู่ ค่อยๆศึกษาไปทีละคู่ เมื่อคุณรู้แล้วว่าคู่ไหนเป็นอย่างไรจึงค่อยเพิ่มคู่เทรดมากขึ้นเท่าที่คุณ คิดว่าจะมารถจัดการกับมันได้

11. เทรดในทามเฟรมเดียว
เพราะการเทรดในทามเฟรมเดียวเป็นสิ่งที่ทำให้การเทรดของคุณง่ายขึ้น การเทรดในทามเฟรมเดียวมีประโยชน์หลายอย่าง :

     ช่วยให้คุณมีสมาธิในการเทรดในกรอบเวลานั้นๆ และลดความสับสนในการเทรดพร้อมกันในหลายทามเฟรมได้
     คุณดูกราฟน้อยลง เพราะจะดูแค่ทามเฟรมเดียว จึงช่วยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการวิเคราะห์กราฟ สามารถหาสัญญาณที่ชัดเจนได้
     ไม่ต้องวิเคราะห์กราฟมากเกินไปในหลายทามเฟรม ซึ่งอาจจะให้สัญญาณที่ขัดแย้งกัน แล้วคุณก็จะสับสนกับสัญญาณเหล่านั้นได้
     มันทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น

จำ ให้ขึ้นใจว่า สิ่งเหล่านี้คือการทำทุกอย่างให้มันง่ายขึ้นในการเทรด หากคุณเทรดคู่เดียวในทามเฟรมเดียว ก็เท่ากับคุณต้องดูกราฟเดียว มือใหม่ไม่จำเป็นที่จะต้องทำอะไรให้ซับซ้อนยุ่งยาก จนกว่าคุณจะกลายเป็นมือโปรและทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง

12. กราฟที่สะอาดตา
ส่วน มากมือใหม่อยากจะใช้ Indicators ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เอามาใส่จนเต็มกราฟไปหมด เพราะคิดว่ามันจะช่วยบอกได้ถึงจุดเข้าออกที่แม่นยำ ซึ่งมันไม่จริง เมื่อเทรดเดอร์มีประสบการณ์มากขึ้น Indicators ในกราฟของพวกเขาจะลดลงไปเรื่อยๆ เพราะ Indicators ยิ่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งให้สัญญาณที่สับสนมากขึ้นเท่านั้น:

    เพิ่มความยุ่งเหยิงให้กราฟ ยากที่จะอ่านสัญญาณได้
    ทำให้เกิดความสับสนในการตัดสินใจ
    เพิ่มแนวโน้มว่าจะมีสัญญาณที่ขัดแย้งกันมากขึ้น
    กราฟดูรก สกปรก เกินไป


เรา จะเห็นได้ว่ามือโปรส่วนใหญ่จะเทรดด้วยกราฟที่สะอาด แม้ว่าจะมี Indicators บ้างแต่ก็ไม่มาก อาจจะแค่เส้น Moving Average ดูสัญญาณแท่งเทียน แนวรับแนวต้าน เพียงแค่ เรื่องพื้นฐานแค่นั้นเค้าก็ทำกำไรกันได้แล้ว แล้วคุณล่ะ ก่อนที่จะโดดลงมาในตลาดเต็มตัว เรียนรู้พื้นฐานกันหรือยัง

ศึกษาข้อมูลได้ที่  http://siammetatrader.com/index.php/topic,558.0.html