leverage คืออะไร?
คุณ
อาจจะเคยคิดว่า นักลงทุนเล็ก ๆ อย่างคุณ
จะสามารถเทรดค่าเงินมากมายขนาดนั้นได้อย่างไร ลองคิดเปรียบว่า โบรคเกอร์
ก็คือธนาคาร ซึ่งเขาอยากให้คุณซื้อค่าเงินมูลค่า 100,000 เหรียญ
โดยที่เขาต้องการเงินจากคุณเพียง แค่ 1,000 เหรียญ เพื่อค้ำประกัน
ฟังดูง่ายเกินไปในโลกของความจริงใช่ไหม? แต่ว่า นี่แหละคือฟอร์เร็กซ์ และ
นี่ก็คือ Leverage ที่เราใช้
จำนวน leverage ที่คุณใช้ ขึ้นอยู่กับโบรคเกอร์ และขึ้นอยู่กับตัวคุณว่า ต้องการใช้เท่าไหร่
โบ
รคเกอร์จะให้คุณฝากเงินเข้า ที่เราเรียกกันว่า margin หรือ initial margin
เมื่อฝากเงินเข้าบัญชี คุณจะสามารถ เทรดได้ทันที และโบรกเกอร์ก็จะบอกว่า
คุณต้องใช้เงินเท่าไหร่ ในการเทรดจำนวน ลอทนั้น ๆ
เช่น ถ้า leverage
ที่เราใช้เท่ากับ 100:1 (หรือ 1 เปอร์เซ็นต์ ของ position ต้องใช้)
และคุณต้องการเทรดมูลค่า 100,000 เหรียญ โบรคเกอร์จะเรียกมาร์จิ้น 1,000
เหรียญ ดังนั้นถ้ามีเงิน 5,000 เหรียญ จะเทรดได้มากสุดถึง 500,000 เหรียญ
มาร์
จิ้นอย่างต่ำต่อลอท จะแตกต่างกันออกไป ตามแต่ละโบรคเกอร์ จากตัวอย่างข้างบน
โบรกเกอร์จะต้องใช้ มาร์จิ้น 1% ซึ่งหมายความว่า ออร์เดอร์มูลค่า 100,000
ซึ่งคุณจะต้องฝากเงินเข้าไป 1,000 เหรียญ เพื่อที่จะฝาก เป็นมาร์จิ้น
นั่นเอง
ศึกษาข้อมูลได้ที่ http://siammetatrader.com/index.php/topic,552.0.html
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ leverage แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ leverage แสดงบทความทั้งหมด
วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2558
ข้อควรรู้ และระวังก่อนการลงทุน
ข้อควรรู้ และระวังก่อนการลงทุน
สิ่ง อันตรายที่สุดของคนเรา คือ ความไม่รู้ หรือรู้น้อยเกินไป ไม่ว่างานแขนงใด ย่อมต้องการ ความสามารถ บางอย่าง ในตัวผู้ปฎิบัติ ดังนั้นจึงปฎิเสธไม่ได้ว่า เมื่อต้องการจับอะไร งานอะไร คุณต้ืองเรียนรู้มันก่อน เมื่อนั้น ความเจริญ รุ่งเรืองในงาน จะมาหาคุณ
แต่ หากไม่เรียนรู้พัฒนา สักแต่ทำ หรือจับงานแบบ เป็ด นั่นไม่แปลกเลย ที่มีคนล้มเหลว จากงานทุกชนิดที่จับ รับมาทำ อ่านสักนิด คิดสักหน่อย ค่อย ๆ ทำตาม แล้วคุณจะเป็นงานอีกแขนง ที่ไม่ยาก ที่จะสร้าง เป็นอาชีพหลัก ได้ อาชีพนักเทรด นักลงทุน หรือนักเล่นหุ้นในอนาคต
ฟอร์เร็กพื้นฐาน สิ่งที่ควรรู้ ก่อนการเทรด ฟอร์เร็กซ์
ฟอร์เร็กซ์ ( Forex ) คืออะไร
Foreign Exchange Market ที่รู้จักในชื่อของ FOREX , Forex , Retail Forex , FX , Spot FX หรือ Spot
เป็น ตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยปริมาณการซื้อขาย มากกว่า 4 ล้าน ๆ หรียญต่อวัน เปรียบเทียบ ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ที่มีปริมาณการเทรด 25 พันล้านเหรียญต่อวัน จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ตลาดฟอร์เร็กซ์ ใหญ่ขนาดไหน
กล่าวคือ ตลาดฟอร์เร็กซ์ มีขนาดใหญ่กว่า ตลาดฟิวเจอร์ และตลาดหุ้น สหรัฐฯ รวมกันถึง 3 เท่า
ตลาดฟอร์เร็กซ์ เทรดอะไร ?
คำตอบ คือ เทรดค่าเงิน
การ เทรดฟอร์เร็กซ์ คือ การซื้อขายค่าเงิน หากเรา ซื้อค่าเงินอีกค่าเงินหนึ่ง เราก็ขายค่าเงินอีกค่าเงินหนึ่ง ในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะเทรดผ่าน โบรกเกอร์ หรือว่า ดีลเลอร์ นั่นเอง แต่ละครั้งจะเทรดเป็นคู่
ตัวอย่างเช่น ค่าเงินยูโร และ ค่าเงินดอลล่าร์ (EUR/USD) หรือ ค่าเงินปอนด์ และ ค่าเงินเยน (GBP/JPY)
เพราะ คุณไม่ได้ซื้ออะไรที่เป็นรูปร่างจับต้องได้จริง ๆ การเทรดแบบนี้จึงค่อนข้างทำให้สับสน
ให้ลองคิดถึงว่า คุณกำลังซื้อหุ้น โดยที่บริษัทที่คุณซื้อหุ้นของเขานั่นก็คือ ประเทศที่คุณถือค่าเงินนั่นเอง
สมมุติ คุณซื้อเงินเยน หมายถึง คุณกำลังลงทุนในเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นอยู่ ซึ่งราคาของค่าเงินนั้น จะสะท้อนภาวะ ของตลาด ที่ผู้คนในตลาดคิดว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะเป็นอย่างไร ในปัจจุบัน และอนาคต
โดยทั่วไป ผลพวงของ ค่าเงินค่าเงินหนึ่ง ที่มีต่ออีกค่าเงินหนึ่ง จะสะท้อนถึงเศรษฐกิจประเทศหนึ่ง ที่เปรียบเทียบ กับอีกประเทศหนึ่งอยู่
ซึ่งจะแตกต่างกับตลาดทุนอื่นๆ เช่น ตลาดหุ้นนิวยอร์ค
ตลาดฟอร์เร็กซ์ ไม่มีที่ตั้ง คือ ไม่มีศูนย์กลางการแลกเปลี่ยน
ตลาดฟอร์เร็กซ์ จะทำการซื้อขาย ผ่านระบบ OTC ( Over the Counter) ที่เรียกว่า Interbank marketนั่นเอง
เนื่องจาก ตลาดทั้งหมด ทำการซื้อขายในระบบ electronic ด้วยระบบเครือข่ายของธนาคาร จึงสามารถทำการซื้อขาย ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ช่วง ปลายปี 1990 มีแต่รายใหญ่ ๆ เท่านั้นที่เทรดในตลาดนี้ ซึ่งเงินที่คุณต้องมีในการเทรดตลาดนี้ในตอนนั้น คือ 10 ถึง 50 ล้านดอลล่าร์ ส่วนใหญ่จะเป็นธนาคาร หรือ สถาบันการเงินขนาดใหญ่ ที่ไม่ใช่รายย่อย อย่างปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม เพราะพัฒนาการที่รวดเร็วของอินเตอร์เน็ต บริษัทรับเทรดฟอร์เร็กซ์ สามารถที่จะให้เราเปิดบัญชี ที่ใช้ ในการเทรด ให้กับรายย่อยอย่างเราในปัจจุบัน
สิ่งที่คุณต้องมีในการเทรด คือ คอมพิวเตอร์ และ อินเตอร์เน็ตความร็วสูง และที่ขาดไม่ได้ คือ ข้อมูล ซึ่งหาได้จาก เว็บไซต์ต่าง ๆ
ข้อมูล เหล่านี้เขียนขึ้นมาเพื่อให้คำแนะนำ สำหรับนักเทรดที่ยังไม่รู้จักตลาดฟอร์เร็กซ์เลย หรือ นักเทรดมือใหม่ ให้เข้าใจเกี่ยวกับความรู้พื้นฐาน ในตลาด Forex ในแบบ ที่ง่ายต่อการทำความเข้าใจ
เวลาของการเทรดค่าเงิน ?
ตลาด ฟอร์เร็กซ์ มีเอกลักษณ์ของตัวเอง เหมือนกับ ซูเปอร์มาร์เก็ตวอลมาร์ทในสหรัฐ ฯ ซึ่งเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนในโลก เราก็สามารถเทรดได้ ทั้งธนาคารและสถาบันการเงินอื่น ๆ ที่ยังคงเทรดค่าเงินอยู่ทั่วโลก ทั้งวันทั้งคืน จะหยุดเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์
ตลาดค่าเงินหมุนตามดวงอาทิตย์รอบโลก ดังนั้นเราสามารถเทรดได้ แม้กระทั่งตอนกลางคืน หรือตอนเช้า
ตลาด ฟอร์เร็กซ์ เป็นตลาดที่ใหญ่ และได้รับความนิยมมากที่สุด ในตลาดทุนทั้งหมดด้วยกันในโลกนี้ มีปริมาณการเทรด มากที่สุด ไม่ว่าจะมาจาก บัญชีเทรดส่วนตัว หรือ องค์กร ซึ่งตลาดนี้ใช้ระบบ OTC ที่นักเทรดแต่ะละคน จะเป็นผู้ตัดสิน ใจ ในการเทรดว่า จะเทรดกับใคร ตามเงื่อนไขของความดึงดูด ที่มีต่อราคา และ ความเป็นที่นิยมของค่าเงิน
ชาร์ทข้างล่างแสดงการเทรด ถึงอัตราส่วนการเทรดของค่าเงินต่าง ๆ ซึ่งค่าเงิน Dollar เป็นค่าเงินที่มีการเทรดมากที่สุด ถึง 86% ของตลาด รองลงคือ เงิน EURO 37% และอันดับสามได้แก่เงินเยน 16.5%
สัดส่วนการเทรด ค่าเงิน
การเทรดฟอร์เร็กซ์ มีข้อดีอย่างไร ?
ต่อไปนี้เป็นเหตุผลบางประการ ที่ตอบคำถามว่า ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงเลือกเทรดฟอร์เร็กซ์
ไม่มี commission (ค่านายหน้า)
ไม่ มีค่าธรรมเนียม ในการส่งคำสั่งซื้อขาย ไม่มีค่าธรรมเนียมในการแลกเปลี่ยน ค่าเงิน ไม่มีค่าธรรมเนียมที่เก็บจากภาครัฐ ไม่มีค่าธรรมเนียมที่คิดโดยโบรคเกอร์ เพราะโบรกเกอร์ จะได้ผลตอบแทน จากส่วนต่างของราคา ที่เรียกว่า Bid กับ Ask หรือเรียกอีกอย่างว่า Spread นั่นเอง
ไม่มีคนกลาง
การเทรด Spot ค่าเงินนั้น จะไม่มีการผ่านคนกลาง ซึ่งทำให้เราสามารถเทรดโดยตรงกับตลาด ตามราคาจริง ของค่าเงินนั้น ๆ
ไม่มีการกำหนด Lot หรือ Size
ใน ตลาดฟิวเจอร์ lot หรือว่า Size ของสัญญาการซื้อขาย ขึ้นอยู่กับ การแลก เปลี่ยนของตัวเครื่องมือนั้นๆ เช่น size มาตรฐานของสัญญาฟิวเจอร์เงิน คือ 5000 ออนซ์ ใน ตลาดฟอร์เร็ก เราสามารถส่งคำสั่งได้ตามใจเรา ซึ่งเหตุผลนี้ ทำให้เทรดเดอร์สามารถเข้าเทรดในตลาดได้ ด้วยเงินเพียง ไม่กี่เหรียญ
ต้นทุนการส่งคำสั่งต่ำ
ต้น ทุนในการส่งคำสั่ง (Bid/Ask หรือ Spread) ซึ่งน้อยกว่า 0.1 เปอร์เซ็นต์ ตามเงื่อนไข ของตลาด สำหรับโบรกเกอร์ใหญ่ ๆ Spread อาจจะน้อยถึง 0.07 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับ Leverage ที่เราใช้
ตลาดที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
เรา ไม่ต้องรอให้มีคนมาสั่นกระดิ่งเปิดตลาด ตลาดเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ตอนเย็น จนถึง วันศุกร์ตอนกลางวัน (เวลา สหรัฐฯ บ้านเราเริ่ม ตีสี่ของวันจันทร์-ตีสี่ของเช้ามืดวันเสาร์) ตลาดฟอร์เร็กซ์นั้น ไม่เคยหลับ ซึ่งเหมาะกับคนที่เทรดเป็นงานเสริม เพราะว่าเราสามารถเลือกได้ว่าเราอยากเทรดเมื่อไหร่ ไม่ว่า กลางวันหรือกลางคืน
ไม่มีใครสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของตลาดได้
ตลาด เทรดค่าเงินเป็นตลาดที่ใหญ่มาก และมีนักเทรด มากมาย หลายระดับอยู่ในตลาด ซึ่งไม่มีใคร(แม้แต่ธนาคารกลาง) ที่จะสามารถควบคุมราคาให้เคลื่อนไหว ไปตาม ความต้องการของเขาได้
Leverage (คาน)
ในการเทรดฟอร์เร็กซ์ แม้เราจะฝากเงินเข้าเพียงน้อยนิด แต่เราก็สามารถถือครองสัญญา ที่มี ขนาดใหญ่กว่าเงินในบัญชีของเราได้ Leverage ให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรได้ ในขณะที่มีความเสี่ยงของเงิน ทุนต่ำ
ตัวอย่าง โบรกเกอร์หนึ่งอนุญาตให้เราใช้ Leverage 1:200 หมายถึง หากเรามีเงินมาร์จิ้น 50 ดอลล่าร์ แต่นักเทรด สามารถซื้อหรือขาย สัญญามูลค่า 10,000 เหรียญได้ เช่นเดียวกัน หากเรามีมาร์จิ้นอยู่ 500 เหรียญ เราก็สามารถ เทรด สัญญามูลค่า 100,000 เหรียญ ได้เช่นกัน
แต่ ว่า Leveraage เหมือนดาบสองคม ถ้าเราไม่มีการจัดการความเสี่ยงที่ดี การใช้ Leverage สูง จะทำให้เราขาดทุน หรือกำไรมหาศาล ได้เหมือนกัน
มีสภาพคล่องสูง
เพราะ ตลาดฟอร์เร็กซ์เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มาก จึงทำให้มีสภาพคล่องสูงเช่นกัน หมายถึง ภายใต้สภาวะตลาดปกติ เมื่อเราคลิกเมาส์ ส่งออร์เดอร์ เราจะสามารถส่งคำสั่งได้ทันที เราจะไม่ติดขัดในการเทรด ไม่ว่าเราจะตั้งให้เปิดออร์เดอร์แบบอัติโนมัติ เมื่อถึงราคาที่กำหนด (Limit order) หรือ ให้ปิดออร์เดอร์อัติโนมัติ ถ้าราคาไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด (Stop loss order)
มี บัญชีเทรด Demo, ข่าว, กราฟ และบทวิเคราะห์บริการให้
โบรกเกอร์ ออนไลน์ส่วนใหญ่ จะมีบัญชี demo ให้ใช้ในการฝึกเทรด พร้อมกับบริการข่าว และกราฟ รวมอยู่ในโปรแกรมเทรด โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ สิ่งเหล่านี้ เป็นข้อมูลที่คุณค่าสำหรับนักเทรดที่ "น่าสงสาร" และนักเทรดที่ชาญฉลาด ที่อยากจะฝึกปรือฝีมือตัวเอง ในการ เทรด ก่อนที่จะเปิดบัญชีเงินจริง และเสี่ยงในเงินจริงๆ
การเทรดบัญชี Mini และ บัญชี Micro
เราอาจ จะคิดว่าการที่จะเป็นนักเทรดค่าเงินขึ้นมาได้นั้น จะต้องใช้เงิน มหาศาล แต่จริงๆ แล้วถ้าเรามาเทียบการเทรดค่าเงิน กับตลาดหุ้นออฟชั่น หรือฟิวเจอร์ แต่ว่าไม่ใช่อย่างนั้น โบรกเกอร์ ออนไลน์หลายๆ ที่ มีบริการบัญชี Mini กับ บัญชี Micro ซึ่งบางโบรคเกอร์อนุญาติให้เรา ฝากเงินได้ ต่ำสุด เพียง 300 เหรียญ หรือต่ำกว่านั้นก็มี แต่เราไม่ได้หมายถึงว่า เราควรจะเปิดบัญชีกับพวกเขาโดยใช้เงิน ให้น้อยที่สุดนะ แต่เรากำลัง หมายถึงว่า มันทำให้ฟอร์เร็กซ์เข้าถึงคนได้หลายกลุ่ม หลายสาขาอาชีพ ผู้ซึ่งไม่มีเงิน มากในการเปิดบัญชีครั้งแรก
ต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการเริ่มเทรดฟอร์เร็กซ์
การ เทรดฟอร์เร็กซ์ เราอาจจะเปิดบัญชีด้วยเงินไม่กี่สิบกี่ร้อยเหรียญ ซึ่งเป็นการดีแล้วในการเริ่มต้น ที่จะลองเอา ขาจุ่มลงน้ำ โดยคุณจะไม่จมน้ำ ศึกษาให้ดีก่อนลงทุนเงินจริงในจำนวนมาก ๆ
ศึกษาข้อมูลได้ที่ http://siammetatrader.com/index.php/topic,546.0.html
สิ่ง อันตรายที่สุดของคนเรา คือ ความไม่รู้ หรือรู้น้อยเกินไป ไม่ว่างานแขนงใด ย่อมต้องการ ความสามารถ บางอย่าง ในตัวผู้ปฎิบัติ ดังนั้นจึงปฎิเสธไม่ได้ว่า เมื่อต้องการจับอะไร งานอะไร คุณต้ืองเรียนรู้มันก่อน เมื่อนั้น ความเจริญ รุ่งเรืองในงาน จะมาหาคุณ
แต่ หากไม่เรียนรู้พัฒนา สักแต่ทำ หรือจับงานแบบ เป็ด นั่นไม่แปลกเลย ที่มีคนล้มเหลว จากงานทุกชนิดที่จับ รับมาทำ อ่านสักนิด คิดสักหน่อย ค่อย ๆ ทำตาม แล้วคุณจะเป็นงานอีกแขนง ที่ไม่ยาก ที่จะสร้าง เป็นอาชีพหลัก ได้ อาชีพนักเทรด นักลงทุน หรือนักเล่นหุ้นในอนาคต
ฟอร์เร็กพื้นฐาน สิ่งที่ควรรู้ ก่อนการเทรด ฟอร์เร็กซ์
ฟอร์เร็กซ์ ( Forex ) คืออะไร
Foreign Exchange Market ที่รู้จักในชื่อของ FOREX , Forex , Retail Forex , FX , Spot FX หรือ Spot
เป็น ตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยปริมาณการซื้อขาย มากกว่า 4 ล้าน ๆ หรียญต่อวัน เปรียบเทียบ ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ที่มีปริมาณการเทรด 25 พันล้านเหรียญต่อวัน จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ตลาดฟอร์เร็กซ์ ใหญ่ขนาดไหน
กล่าวคือ ตลาดฟอร์เร็กซ์ มีขนาดใหญ่กว่า ตลาดฟิวเจอร์ และตลาดหุ้น สหรัฐฯ รวมกันถึง 3 เท่า
ตลาดฟอร์เร็กซ์ เทรดอะไร ?
คำตอบ คือ เทรดค่าเงิน
การ เทรดฟอร์เร็กซ์ คือ การซื้อขายค่าเงิน หากเรา ซื้อค่าเงินอีกค่าเงินหนึ่ง เราก็ขายค่าเงินอีกค่าเงินหนึ่ง ในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะเทรดผ่าน โบรกเกอร์ หรือว่า ดีลเลอร์ นั่นเอง แต่ละครั้งจะเทรดเป็นคู่
ตัวอย่างเช่น ค่าเงินยูโร และ ค่าเงินดอลล่าร์ (EUR/USD) หรือ ค่าเงินปอนด์ และ ค่าเงินเยน (GBP/JPY)
เพราะ คุณไม่ได้ซื้ออะไรที่เป็นรูปร่างจับต้องได้จริง ๆ การเทรดแบบนี้จึงค่อนข้างทำให้สับสน
ให้ลองคิดถึงว่า คุณกำลังซื้อหุ้น โดยที่บริษัทที่คุณซื้อหุ้นของเขานั่นก็คือ ประเทศที่คุณถือค่าเงินนั่นเอง
สมมุติ คุณซื้อเงินเยน หมายถึง คุณกำลังลงทุนในเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นอยู่ ซึ่งราคาของค่าเงินนั้น จะสะท้อนภาวะ ของตลาด ที่ผู้คนในตลาดคิดว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะเป็นอย่างไร ในปัจจุบัน และอนาคต
โดยทั่วไป ผลพวงของ ค่าเงินค่าเงินหนึ่ง ที่มีต่ออีกค่าเงินหนึ่ง จะสะท้อนถึงเศรษฐกิจประเทศหนึ่ง ที่เปรียบเทียบ กับอีกประเทศหนึ่งอยู่
ซึ่งจะแตกต่างกับตลาดทุนอื่นๆ เช่น ตลาดหุ้นนิวยอร์ค
ตลาดฟอร์เร็กซ์ ไม่มีที่ตั้ง คือ ไม่มีศูนย์กลางการแลกเปลี่ยน
ตลาดฟอร์เร็กซ์ จะทำการซื้อขาย ผ่านระบบ OTC ( Over the Counter) ที่เรียกว่า Interbank marketนั่นเอง
เนื่องจาก ตลาดทั้งหมด ทำการซื้อขายในระบบ electronic ด้วยระบบเครือข่ายของธนาคาร จึงสามารถทำการซื้อขาย ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ช่วง ปลายปี 1990 มีแต่รายใหญ่ ๆ เท่านั้นที่เทรดในตลาดนี้ ซึ่งเงินที่คุณต้องมีในการเทรดตลาดนี้ในตอนนั้น คือ 10 ถึง 50 ล้านดอลล่าร์ ส่วนใหญ่จะเป็นธนาคาร หรือ สถาบันการเงินขนาดใหญ่ ที่ไม่ใช่รายย่อย อย่างปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม เพราะพัฒนาการที่รวดเร็วของอินเตอร์เน็ต บริษัทรับเทรดฟอร์เร็กซ์ สามารถที่จะให้เราเปิดบัญชี ที่ใช้ ในการเทรด ให้กับรายย่อยอย่างเราในปัจจุบัน
สิ่งที่คุณต้องมีในการเทรด คือ คอมพิวเตอร์ และ อินเตอร์เน็ตความร็วสูง และที่ขาดไม่ได้ คือ ข้อมูล ซึ่งหาได้จาก เว็บไซต์ต่าง ๆ
ข้อมูล เหล่านี้เขียนขึ้นมาเพื่อให้คำแนะนำ สำหรับนักเทรดที่ยังไม่รู้จักตลาดฟอร์เร็กซ์เลย หรือ นักเทรดมือใหม่ ให้เข้าใจเกี่ยวกับความรู้พื้นฐาน ในตลาด Forex ในแบบ ที่ง่ายต่อการทำความเข้าใจ
ตลาด Spot คืออะไร ?
Spot คือ ตลาดใดก็ตาม ที่ทำการซื้อขาย ในราคานั้น ๆ ในปัจจุบัน ตามเครื่องมือทางการเงินแต่ละประเภทเวลาของการเทรดค่าเงิน ?
ตลาด ฟอร์เร็กซ์ มีเอกลักษณ์ของตัวเอง เหมือนกับ ซูเปอร์มาร์เก็ตวอลมาร์ทในสหรัฐ ฯ ซึ่งเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนในโลก เราก็สามารถเทรดได้ ทั้งธนาคารและสถาบันการเงินอื่น ๆ ที่ยังคงเทรดค่าเงินอยู่ทั่วโลก ทั้งวันทั้งคืน จะหยุดเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์
ตลาดค่าเงินหมุนตามดวงอาทิตย์รอบโลก ดังนั้นเราสามารถเทรดได้ แม้กระทั่งตอนกลางคืน หรือตอนเช้า
ตลาด ฟอร์เร็กซ์ เป็นตลาดที่ใหญ่ และได้รับความนิยมมากที่สุด ในตลาดทุนทั้งหมดด้วยกันในโลกนี้ มีปริมาณการเทรด มากที่สุด ไม่ว่าจะมาจาก บัญชีเทรดส่วนตัว หรือ องค์กร ซึ่งตลาดนี้ใช้ระบบ OTC ที่นักเทรดแต่ะละคน จะเป็นผู้ตัดสิน ใจ ในการเทรดว่า จะเทรดกับใคร ตามเงื่อนไขของความดึงดูด ที่มีต่อราคา และ ความเป็นที่นิยมของค่าเงิน
ชาร์ทข้างล่างแสดงการเทรด ถึงอัตราส่วนการเทรดของค่าเงินต่าง ๆ ซึ่งค่าเงิน Dollar เป็นค่าเงินที่มีการเทรดมากที่สุด ถึง 86% ของตลาด รองลงคือ เงิน EURO 37% และอันดับสามได้แก่เงินเยน 16.5%
สัดส่วนการเทรด ค่าเงิน
การเทรดฟอร์เร็กซ์ มีข้อดีอย่างไร ?
ต่อไปนี้เป็นเหตุผลบางประการ ที่ตอบคำถามว่า ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงเลือกเทรดฟอร์เร็กซ์
ไม่มี commission (ค่านายหน้า)
ไม่ มีค่าธรรมเนียม ในการส่งคำสั่งซื้อขาย ไม่มีค่าธรรมเนียมในการแลกเปลี่ยน ค่าเงิน ไม่มีค่าธรรมเนียมที่เก็บจากภาครัฐ ไม่มีค่าธรรมเนียมที่คิดโดยโบรคเกอร์ เพราะโบรกเกอร์ จะได้ผลตอบแทน จากส่วนต่างของราคา ที่เรียกว่า Bid กับ Ask หรือเรียกอีกอย่างว่า Spread นั่นเอง
ไม่มีคนกลาง
การเทรด Spot ค่าเงินนั้น จะไม่มีการผ่านคนกลาง ซึ่งทำให้เราสามารถเทรดโดยตรงกับตลาด ตามราคาจริง ของค่าเงินนั้น ๆ
ไม่มีการกำหนด Lot หรือ Size
ใน ตลาดฟิวเจอร์ lot หรือว่า Size ของสัญญาการซื้อขาย ขึ้นอยู่กับ การแลก เปลี่ยนของตัวเครื่องมือนั้นๆ เช่น size มาตรฐานของสัญญาฟิวเจอร์เงิน คือ 5000 ออนซ์ ใน ตลาดฟอร์เร็ก เราสามารถส่งคำสั่งได้ตามใจเรา ซึ่งเหตุผลนี้ ทำให้เทรดเดอร์สามารถเข้าเทรดในตลาดได้ ด้วยเงินเพียง ไม่กี่เหรียญ
ต้นทุนการส่งคำสั่งต่ำ
ต้น ทุนในการส่งคำสั่ง (Bid/Ask หรือ Spread) ซึ่งน้อยกว่า 0.1 เปอร์เซ็นต์ ตามเงื่อนไข ของตลาด สำหรับโบรกเกอร์ใหญ่ ๆ Spread อาจจะน้อยถึง 0.07 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับ Leverage ที่เราใช้
ตลาดที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
เรา ไม่ต้องรอให้มีคนมาสั่นกระดิ่งเปิดตลาด ตลาดเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ตอนเย็น จนถึง วันศุกร์ตอนกลางวัน (เวลา สหรัฐฯ บ้านเราเริ่ม ตีสี่ของวันจันทร์-ตีสี่ของเช้ามืดวันเสาร์) ตลาดฟอร์เร็กซ์นั้น ไม่เคยหลับ ซึ่งเหมาะกับคนที่เทรดเป็นงานเสริม เพราะว่าเราสามารถเลือกได้ว่าเราอยากเทรดเมื่อไหร่ ไม่ว่า กลางวันหรือกลางคืน
ไม่มีใครสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของตลาดได้
ตลาด เทรดค่าเงินเป็นตลาดที่ใหญ่มาก และมีนักเทรด มากมาย หลายระดับอยู่ในตลาด ซึ่งไม่มีใคร(แม้แต่ธนาคารกลาง) ที่จะสามารถควบคุมราคาให้เคลื่อนไหว ไปตาม ความต้องการของเขาได้
Leverage (คาน)
ในการเทรดฟอร์เร็กซ์ แม้เราจะฝากเงินเข้าเพียงน้อยนิด แต่เราก็สามารถถือครองสัญญา ที่มี ขนาดใหญ่กว่าเงินในบัญชีของเราได้ Leverage ให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรได้ ในขณะที่มีความเสี่ยงของเงิน ทุนต่ำ
ตัวอย่าง โบรกเกอร์หนึ่งอนุญาตให้เราใช้ Leverage 1:200 หมายถึง หากเรามีเงินมาร์จิ้น 50 ดอลล่าร์ แต่นักเทรด สามารถซื้อหรือขาย สัญญามูลค่า 10,000 เหรียญได้ เช่นเดียวกัน หากเรามีมาร์จิ้นอยู่ 500 เหรียญ เราก็สามารถ เทรด สัญญามูลค่า 100,000 เหรียญ ได้เช่นกัน
แต่ ว่า Leveraage เหมือนดาบสองคม ถ้าเราไม่มีการจัดการความเสี่ยงที่ดี การใช้ Leverage สูง จะทำให้เราขาดทุน หรือกำไรมหาศาล ได้เหมือนกัน
มีสภาพคล่องสูง
เพราะ ตลาดฟอร์เร็กซ์เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มาก จึงทำให้มีสภาพคล่องสูงเช่นกัน หมายถึง ภายใต้สภาวะตลาดปกติ เมื่อเราคลิกเมาส์ ส่งออร์เดอร์ เราจะสามารถส่งคำสั่งได้ทันที เราจะไม่ติดขัดในการเทรด ไม่ว่าเราจะตั้งให้เปิดออร์เดอร์แบบอัติโนมัติ เมื่อถึงราคาที่กำหนด (Limit order) หรือ ให้ปิดออร์เดอร์อัติโนมัติ ถ้าราคาไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด (Stop loss order)
มี บัญชีเทรด Demo, ข่าว, กราฟ และบทวิเคราะห์บริการให้
โบรกเกอร์ ออนไลน์ส่วนใหญ่ จะมีบัญชี demo ให้ใช้ในการฝึกเทรด พร้อมกับบริการข่าว และกราฟ รวมอยู่ในโปรแกรมเทรด โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ สิ่งเหล่านี้ เป็นข้อมูลที่คุณค่าสำหรับนักเทรดที่ "น่าสงสาร" และนักเทรดที่ชาญฉลาด ที่อยากจะฝึกปรือฝีมือตัวเอง ในการ เทรด ก่อนที่จะเปิดบัญชีเงินจริง และเสี่ยงในเงินจริงๆ
การเทรดบัญชี Mini และ บัญชี Micro
เราอาจ จะคิดว่าการที่จะเป็นนักเทรดค่าเงินขึ้นมาได้นั้น จะต้องใช้เงิน มหาศาล แต่จริงๆ แล้วถ้าเรามาเทียบการเทรดค่าเงิน กับตลาดหุ้นออฟชั่น หรือฟิวเจอร์ แต่ว่าไม่ใช่อย่างนั้น โบรกเกอร์ ออนไลน์หลายๆ ที่ มีบริการบัญชี Mini กับ บัญชี Micro ซึ่งบางโบรคเกอร์อนุญาติให้เรา ฝากเงินได้ ต่ำสุด เพียง 300 เหรียญ หรือต่ำกว่านั้นก็มี แต่เราไม่ได้หมายถึงว่า เราควรจะเปิดบัญชีกับพวกเขาโดยใช้เงิน ให้น้อยที่สุดนะ แต่เรากำลัง หมายถึงว่า มันทำให้ฟอร์เร็กซ์เข้าถึงคนได้หลายกลุ่ม หลายสาขาอาชีพ ผู้ซึ่งไม่มีเงิน มากในการเปิดบัญชีครั้งแรก
ต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการเริ่มเทรดฟอร์เร็กซ์
การ เทรดฟอร์เร็กซ์ เราอาจจะเปิดบัญชีด้วยเงินไม่กี่สิบกี่ร้อยเหรียญ ซึ่งเป็นการดีแล้วในการเริ่มต้น ที่จะลองเอา ขาจุ่มลงน้ำ โดยคุณจะไม่จมน้ำ ศึกษาให้ดีก่อนลงทุนเงินจริงในจำนวนมาก ๆ
ศึกษาข้อมูลได้ที่ http://siammetatrader.com/index.php/topic,546.0.html
ป้ายกำกับ:
การซื้อขาย,
การลงทุน,
นักลงทุน,
Foreign Exchange,
leverage,
Market,
Over,
Retail,
Spot,
Spot FX
ความแตกต่างระหว่าง forex กับ Futures
ความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่าง ฟอร์เร็กซ์ กับ Futures
ความได้เปรียบ Forex Futures
เทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง YES NO
ไม่มีค่าคอมมิชชั่นในการเทรด* YES NO
มี leverage สูงถึง 1:400 YES NO
มีราคาที่แน่นอน YES NO
ความเสี่ยงมีจำกัด YES NO
สภาพคล่อง
ตลาด ฟอร์เร็กซ์ มีปริมาณการซื้อขาย 2 ล้าน ๆ เหรียญต่อวัน เป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงที่สุดในโลก ซึ่งถ้าเราเทียบ กันกับตลาดอื่นแล้ว ทำให้ปริมาณหรือขนาดของตลาดทุนอื่น ๆ ดูเล็กลงไปทันที ตลาดฟิวเจอร์เทรดอยู่ราว ๆ 30,000 ล้านเหรียญต่อวัน ตลาดฟิวเจอร์ไม่สามารถแข่งกับตลาดฟอร์เร็กซ์ เพราะมีปริมาณการเทรดที่จำกัด หมายความว่า ฟอร์เร็กซ์ ออร์เดอร์สามารถส่งคำสั่งใด ๆ ก็ตามได้ตลอดเวลา โดยปราศจากการคลาดเคลื่อนของราคา นอกจาก ในช่วงที่ตลาด มีความผันผวนสูงหรืออยู่ในภาวะที่ไมปกติเท่านั้น
เทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ณ.เวลาบ่าย 2:15 วันอาทิตย์ (ตามเวลาสากล และท้องถิ่น)
ตลาดเริ่มเทรดที่ ซิดนีย์ และสิงคโปร์
เวลา หนึ่งทุ่มตรง ตลาดโตเกียว เปิดทำการ
ตามตลาดลอนดอนเวลาตีสอง
และ สุดท้ายตลาดนิวยอร์คเปิดเวลา 8 โมงเช้า
และ ปิดที่เวลา 5 โมงเย็น
ดัง นั้นก่อนที่ตลาดนิวยอร์คจะปิด ตลาดสิงคโปร์ และตลาดซิดนีย์ ก็กลับมาเปิดอีกครั้งแล้ว และก็วนอย่างนี้ ไม่รู้จัก จบสิ้น จนสุดสัปดาห์
ใน ฐานะเทรดเดอร์คนหนึ่ง ทำให้ต้องสนใจกับ ข่าวดีหรือข่าวร้าย ที่เกิดขึ้นด้วยการเทรด ถ้าเหากว่ามีข้อมูลที่สำคัญ ออกมา จากอังกฤษ หรือว่า ญี่ปุ่น ขณะที่ตลาดสหรัฐฯ กำลังจะปิด นั่นหมายความ ถ้ามันเปิดตลาดมาวันต่อไป ราคาต่อวิ่งกระฉูดแน่นอน
(ตอนกลางคืน แม้อาจจะมีการเทรดฟิวเจอร์ค่าเงินอยู่บ้าง แต่ว่าปริมาณการเทรดก็เบาบาง ไม่มากนัก และยากเกินไป สำหรับนักลงทุนทั่วไปที่จะเข้าเทรด)
ไม่มีค่าคอมมิชชั่นในการเทรด
อะไร สำคัญที่สุดในการเทรดค่าเงิน คุณไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่น เพราะคุณติดต่อโดยตรงกับ market maker ทางโปรแกรมออนไลน์ คุณไม่ได้จ่ายค่าธรรมเนียมให้คนกลางไม่ว่าจะเป็นการซื้อ หรือขาย แต่ว่าก็ยังมี ค่าใช้จ่าย นิดหน่อย คือค่า Spread ในการเทรดฟิวเจอร์ หรือการเทรดหุ้น หรือ Equity ก็มีเหมือนกัน โบรคเกอร์ จะได้ผล ตอบแทนจากค่า spread แทนที่จะเป็นค่าคอมมิชชั่น
มีราคาที่แน่นอน
เมื่อ เทรดฟอร์เร็กซ์ คำสั่งซื้อขายของคุณจะได้รับการส่งคำสั่งอย่างรวดเร็ว และได้ราคาที่คุณคิดไว้ ภายใต้ภาวะ ตลาดปกติ แต่ในทางกลับกัน ราคาของฟิวเจอร์ หรือ equity คุณอาจจะไม่ได้ราคาที่คุณอยากซื้อ หรือสามารถส่งคำสั่ง แล้วได้ออร์เดอร์นั้นทันทีทันใด แม้ว่าคุณจะใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงขนาดไหน หรือ โบรคเกอร์ของคุณสามารถ ส่งคำสั่งได้เร็วขนาดไหน ราคาที่คุณต้องตั้งไว้นั้น อยู่ไกลจากราคาปัจจุบัน เพราะเมื่อคุณส่งราคานั้นออกไป มันเป็น ราคาสุดท้ายที่มีการเทรด แต่ไม่ใช่ราคาที่ตัวสัญญาระบุราคาไว้ (เพราะว่าฟิวเจอร์เป็นการซื้อขายราคาในอนาคต)
ความเสี่ยงมีจำกัด
นัก เทรดจะมี Position Limit วัตถุประสงค์เพื่อจัดการความเสี่ยง ตัวเลขนี้เกี่ยวกับจำนวนเงินในบัญชีเทรดของ เทรดเดอร์ ความเสี่ยงถูกจำกัดให้เหลือน้อยลงในตลาดฟอร์เร็กซ์ เพราะโปรแกรมที่นักเทรดใช้อยู่ จะเรียก มาร์จิ้น เพิ่มอัติโนมัติ (margin call) เมื่อเทรดเดอร์ไม่มีมาร์จิ้นเหลืออีก ออร์เดอร์ที่เปิดอยู่จะถูกปิดทันทีตามขนาด ของ Position ที่เปิดอยู่ ในตลาดฟิวเจอร์ Position ของคุณจะต้องใส่เงินเพิ่มเข้าไปตลอด ถ้ามันขาดทุน หรือว่า มีมูลค่า ต่ำกว่ามาร์จิ้นที่โบรคเกอร์กำหนด คุณต้องใส่เงินจำนวนที่เท่ากับจำนวนที่ขาดทุน เข้าไปในบัญชี มันเป็นเรื่องบ้ามาก
เหตุผลที่นอกเหนือจากข้อดังกล่าว
ไม่มีคนกลาง
คน กลางในการแลกเปลี่ยน สามารถทำให้เราได้เปรียบหลาย ๆ อย่าง แต่ปัญหาอย่างหนึ่งของการเทรด โดยการผ่าน คนกลางคือ ความสัมพันธ์ของคนกลาง ซึ่งระหว่างกลุ่มเทรดเดอร ์และด้านผู้ซื้อ ด้านผู้ขาย ในตลาดการทุน ทุกเครื่องมือทางการเงิน ต้องมีค่าใช้จ่าย ที่เราต้องจ่ายให้คนกลาง ซึ่งอาจจะคิดเป็นเวลา หรือเป็นค่าธรรมเนียมตายตัว ก็แล้วแต่ แต่การเทรดค่าเงินนั้น ไม่ต้องผ่านคนกลาง และเทรดเดอร์ยังสามารถเทรดได้กับตลาดโดยตรงซึ่ง market maker เป็นผู้รับผิดชอบต่อออร์เดอร์ ที่เทรดเดอร์เป็นผู้ส่งราคานั้น ๆ ดังนั้น ฟอร์เร็กซ์ ซื้อขายได้ทันท่วงทีมากกว่า และยังมีต้นทุน ที่ถูกกว่าอีกด้วย
ไม่มีใครสามารถควบคุมตลาดได้
หลาย ๆ ครั้งที่อาจจะได้ยินว่า กองทุน A กำลังเทขาย X หรือ กำลัง ซื้อ Z มีข่าวลือว่ากองทุนกำลังจะ เทขาย ทำกำไร เพราะว่าถึงเวลาใกล้ปิดบัญชีแล้ว หรือว่าจะเป็นวัน "triple witching day"(เป็นวันที่ สัญญาออพชั่น หรือ ฟิวเจอร์ หมดพร้อมกันทั้ง index และก็ตัวหุ้นเอง) , และเหตุผลต่าง ๆ นานา ที่ออกมาอธิบายว่าทำไม หุ้นถึงขึ้น หรือทำไม ตลาดอยู่ภาวะตลาดหมี หรือ ตลาดกระทิง ตลาดหุ้นเป็นตลาดที่เคลื่อนไหว ไปตามกองทุนไม่ว่าจะ ซื้อหรือขาย ในการเทรดฟอร์เร็กซ์ การเข้ามาควบคุมตลาดได้ของธนาคารขนาดใหญ่หรือกองทุนใหญ่ ๆ มีน้อยมาก ธนาคาร เฮดจ์ฟันด์ รัฐบาล หรือแม้แต่บริษัทรับแลกเงินต่าง ๆ ทั้งหมด เป็นแค่ผู้เทรดในตลาดทั่วโลก ซึ่งทำให้มันมีสภาพคล่อง หรือมูลค่ามหาศาลนั่นเอง
นักวิเคราะห์ กับ บริษัทโบรคเกอร์ มีบทบาทน้อย ในการชักนำตลาด
คุณ เคยได้ยินเรื่องหุ้น หรือไม่ว่า บทวิเคราะห์ที่โบรคเกอร์ออกมาให้คำแนะนำ เช่น ซื้อ เมื่อหุ้นราคากำลังปรับฐาน มันเป็นธรรมชาติของการลงทุนแบบนี้ ไม่ว่ารัฐบาลจะออกมาเตือน และไม่สนับสนุน การกระทำของโบรคเกอร์ แต่ว่าเราก็ยังได้เห็นมันอยู่ การเปิดขายหุ้น IPO ให้กับประชาชนทั่วไป เป็นโอกาสในการได้เป็นมหาชนของบริษัท และยังเป็นโอกาส ในการทำ กำไรของโบรคเกอร์อีกด้วย ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างมีผลประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งนักวิเคราะห์ ก็ทำงานให้โบรคเกอร์ อยู่แล้ว และโบรคเกอร์ก็ต้องการลูกค้า ก็เป็นธรรมดา ที่พวกเขาจะได้ผลประโยชน์ร่วมกัน และเราก็ยังตกเป็นเหยื่ออยู่เรื่อยไป ตลาดแลกเปลี่ยนค่าเงินฟอร์เร็กซ์เป็นตลาดใหญ่ มีปริมาณการเทรดเป็นพัน ๆ ล้านจากธนาคารทั่วทุกมุมถนนทั่วโลก และเพราะ มันเป็นตลาดการเงินของโลก นักวิเคราะห์ในตลาดฟอร์เร็กซ์ ไม่สามารถเป็นผู้ชี้นำทิศทางตลาด ให้กับ เทรดเดอร์ได้ พวกเขาเพียงทำได้แค่ ่วิเคราะห์ตามภาวะตลาดเท่านั้นเอง
หุ้น 8,000 ตัว กับ 4 ค่าเงิน
มี หุ้นอยู่ในตลาดหุ้น New York Stock exchange.ประมาณ 4,500 ตัวและ อีกราว ๆ 3500 ตัวในตลาด NASDAQ. คุณเทรดตลาดไหนอยู่ คุณจะมีเวลาที่ไหนไปหาบริษัทที่มีผลประกอบการจากบริษัททั้งหมด แปดพันกว่าบริษัท แต่ ในตลาดค่าเงิน เรามีค่าเงินเพียงไม่กี่คู่ และ่ส่วนใหญ่ที่เทรดกัน มีแค่ 4 ค่าเงิน การดู 4 ค่าเงินง่ายกว่า การดูหุ้น 8 พันตัว คุณคงคิดเองได้
ศึกษาข้อมูลได้ที่ http://siammetatrader.com/index.php/topic,545.0.html
ป้ายกำกับ:
การซื้อขาย,
โบรคเกอร์,
Equity,
forex กับ Futures,
Index,
leverage,
margin,
Position Limit,
Spread
เล่นหุ้นออนไลน์ มือใหม่โปรดคลิ๊ก
"การ สร้างรายได้จากโลกออนไลน์ในปัจจุบันนี้ มีมากมายหลายรูปแบบ ผ่านธุรกิจต่างๆรวมไปถึงการลงทุนในตลาด Forex หรือตลาดซื้อขายสกุลเงินระหว่างประเทศซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถสร้าง รายได้ให้คุณได้อย่างมหาศาล"
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากจะเล่นหุ้นแต่ มีทุนไม่เพียงพอหรือมีเงินทุนเพียงพอสำหรับการเล่นหุ้นอยู่แล้วก็ลองอ่านราย ละเอียดเกี่ยวกับการเทรด Forex ดูครับ เพราะเป็นการลงทุนที่น่าสนใจการเทรด Forex จะคล้าย ๆ กับการเล่นหุ้นแต่ Forex จะมีสะภาพคล่องสูงกว่ามาก กร๊าฟวิ่งขึ้น-ลงเร็วและยังสามารถเล่นได้ทั้งกร๊าฟขาขึ้นและขาลง จากสภาพคล่องสูงนี่เองที่ทำให้เทรดได้หรือเสียเร็ว เงินลงทุนก็เริ่มต้นเพียง $1 เท่านั้น
Forex คืออะไร?
Forex (FOReign Exchange market) คือ ตลาดทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สิ่งที่ซื้อ-ขายกันในตลาดนี้คือเงินตราสกุลต่างๆ (การเก็งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน) ในการซื้อ-ขายเงินตราเหล่านี้จะอยู่ในรูปแบบการจับคู่แลกเปลี่ยน ตัวอย่างเช่น EUR/USD, USD/JPY, GBP/USD, USD/CHF, USD/CAD, GBP/JPY เป็นต้น

ตลาด Forex มีมูลค่าการซื้อขายต่อวันสูงถึง 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากกว่าทุกตลาดทางการเงินในโลกนี้รวมกัน โดยก่อนที่จะมีอินเตอร์เน็ตแพร่หลายนั้น ตลาด Forex จะมีผู้เล่นเพียงบางกลุ่มเท่านั้น เช่น ธนาคาร กองทุน ผู้นำเข้า และส่งออก แต่เมื่อมีอินเตอร์เน็ตก็เริ่มมีการพัฒนาระบบเทรดบนอินเตอร์เน็ต และเริ่มมีโบรกเกอร์ที่ให้บริการสำหรับนักลงทุนรายย่อยที่สนใจให้สามารถ เริ่มต้นเทรดได้ด้วยทุนเพียง $1 เท่านั้น จึงทำให้การลงทุนในตลาดแห่งนี้แพร่หลายไปทั่วโลก

ตลาด Forex คือ ตลาดกลางสำหรับซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่าง ๆ ทั่วโลก ที่รู้จักในชื่อของ FOREX , Forex , Retail Forex , FX , Spot FX หรือ Spot
ตลาด Forex นั้นเป็นตลาดการเงินที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในโลก และกระจายอยู่ทั่วโลก ได้แก่ นิวยอร์ค ลอนดอน ญี่ปุ่น ยุโรป และ ออสเตรเลีย การที่มีตลาดใหญ่กระจายอยู่ทั่วโลก โดยแต่ละพื้นที่มีเวลาเหลื่อมกัน ทำให้เสมือนว่าตลาด Forex นั้นเปิด และมีการซื้อขายอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถ้าเทียบกับเวลาในประเทศไทยแล้ว ตลาด Forex เปิดทำการตั้งแต่ตี 4 ของเช้าวันจันทร์ จนถึง ตี 4 เช้าวันเสาร์ หรือก็คือ 24 ชม ยกเว้นวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ นั้นเอง ปัจจุบันตลาด Forex นั้นมีมูลค่าการซื้อขายต่อวัน สูงถึง 4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากกว่าทุกตลาดทางการเงินในโลกนี้รวมกัน
ผลตอบแทนกับการลงทุนในตลาด FOREX
ผล ตอบแทนจากการลงทุนในตลาด Forex นั้นสูงมาก เมื่อเทียบกับการลงทุนในตลาดหุ้น หรือการลงทุนในกองทุน สำหรับผู้ติดตามการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน อาจสงสัยว่าการลงทุนในตลาด Forex ซึ่งซื้อขายเงินตราสกุลเงินต่าง ๆ จะให้ผลตอบแทนสูงได้อย่างไร ในเมื่อแต่ละวันอัตราการเปลี่ยนแปลงราคาของสกุลเงินต่าง ๆ นั้นเปลี่ยนแปลงน้อยมาก (ไม่ถึง 1%)
สิ่งที่ทำให้ตลาด Forex ให้ผลตอบแทนสูง นั่นคือ "ระบบ Leverage" ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุน สามารถลงทุนและทำกำไรได้เหมือนมีทุนเป็นร้อยเท่าจากทุนจริงที่มีอยู่ และสามารถเลือกทำกำไรได้ทั้งขาขึ้น และขาลง ซึ่งทั้งหมดนี้เหมือนกับการลงทุนใน Gold Future, TFEX หรือ SET50 Future เพียงแต่ว่า สัดส่วน Leverage นั้นสูงกว่ามาก
หลายคนอาจสงสัย ว่า.. "ผลตอบแทนสูง นั้นสูงขนาดไหน ?" เปรียบเทียบให้เห็นภาพมากขึ้น การลงทุนซื้อหุ้นในตลาดทุนเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเกิดได้บ่อย
แต่สำหรับตลาด Forex การทำกำไรนั้น เป็นเรื่องปกติ และธรรมดามาก จะเห็นได้ว่า ผลตอบแทนนั้นสูงมาก แต่ในทางกลับกันก็เป็นการลงทุนที่มีอัตราเสี่ยงสูงมาก (High Risk = High Return)
มี 100 ก็หมด 100 ได้ไม่ยาก ในเวลาอันสั้นเช่นกัน ดังนั้นผู้ที่สนใจ และอยากลองลงทุนในตลาด Forex ควรศึกษาให้ดีก่อนลงทุน
เพิ่มเติมรายละเอียด Forex คือ อะไร? คลิ๊ก
เพิ่มเติมรายละเอียด เกี่ยวกับ Forex คลิ๊ก
ความน่าสนใจของตลาด Forex
- เงินลงทุนต่ำเริ่มต้นเพียง $1
- ตลาด online ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต 24 ชั่วโมง
- สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง
- ค่าดำเนินการต่ำโบรกเกอร์เก็บค่า spreed เริ่มต้นเพียง 2 pips ต่อเทรดเท่านั้น (คู่ EUR/USD)
- สามารถทดลองเทรดได้เสมือนจริงโดยใช้ virtual money (เงินปลอม) บนระบบจริง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
- หากคุณศึกษาหาความรู้จนเกิดความชำนาญก็สามารถเทรด Forex เป็นอาชีพได้
- เป็นงานออนไลน์แห่งทุกปีและทุกยุคสมัยตลอดไป ใช้เวลาอยู่กับคอมพร้อมสนุกไปกับมัน
- ต่างจากงานออนไลน์ทั่วไป ไม่จำเป็นต้องโปรโมทสื่อ หรือชวนคนใดๆ เพราะนี้ไม่ใช่ธุรกิจ MLM เพราะเราเทรด Forex มันได้มากกว่าธุรกิจชวนคนที่ไ้ด้ค่าคอม วันๆหนึ่งเราเทรด 3 ชั่วโมงกำไร 100 ดอล(3พันบาท) มันเป็นอะไรที่ได้เงินง่ายมากๆ แค่ไม่กี่นาทีเราก็สร้างรายได้แล้ว เพราะตลาดนี้มันทำกำไรได้เร็วที่สุดในโลก
ลงทุนใน Forex ได้เงินจริงหรือเปล่า?
เล่น Forex แล้วได้เงินจริงหรือเปล่า ผมขอตอบว่า...ได้จริงและเสียจริงครับ อยู่ที่ว่าคุณทำได้หรือเปล่า คุณต้องขยันศึกษาหาความรู้ หาเทคนิคในการทำกำไร มีหลายคนฝึกฝนจนสามารถยึดการเทรด Forex เป็นอาชีพหลักได้ ความสำเร็จดังกล่าวอยู่ที่การฝึกฝนครับ ก็เหมือนกับอาชีพอื่นๆ การที่จะเก่งได้นั้นก็ต้องผ่านการเรียนรู้และฝึกฝน การเล่น Forex จะคล้ายๆ การเล่นหุ้น แต่เป็นการซื้อขายค่าเงินระหว่างคู่เงินแทน เป็นการเก็งกำไรจากค่าเงิน ตลาดเงินจะคล่องตัวกว่าตลาดหุ้นมาก ส่วนตลาดหุ้นเค้าจะเน้นกิจการดี ปันผลเยี่ยม แต่ยังไงๆก็สู้ตลาดเงินไม่ได้อยู่ดีเพราะวันๆหนึ่งเราสามารถสร้างผลกำไรได้ มากกว่า 10% - 100%++ ต่อวันได้เลย แต่หุ้นไม่สามารถทำได้ ถึงทำได้ก็น้อย ถ้าเล่นแบบปั่นผล ก็จะมีไตรมาสล่ะ 20% 3 เดือนจ่ายที ซึ่งเป็นไรที่ช้ามาก สมมุติคุณลงไป 1 แสน บาทในการเล่นหุ้นหรือถือหุ้นบริษัทหนึ้งที่ให้ปั่นผล 20%ต่อไตรมาส พอ 3 เดือนปุ๊ป คุณก็จะได้ 2 หมื่น เทียบกับการเล่นค่าเงิน วันหนึ้งคุณทำกำไรจาก 1 แสน เป็น 1แสน 2 หมื่นบาท นั้นหมายถึงคุณทำกำไร 20% ต่อวันแล้ว ถ้าคิดเป็น 3 เดือนล่ะจะซักเท่าไหร่?เดือนหนึ่งเทรดได้ 20 วัน ก็เอา 20 วัน*3 เดือน = 60 วัน คุณเทรดได้กำไร 20%ต่อวันลองคูณดูมันจะซักเท่าไหร่ 20,000 * 60 = 1,200,000 บาท ภายใน 3 เดือน ซึ้งเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากๆกับการเล่น Forex โบรกเกอร์ที่ให้บริการเทรด Forex ส่วนใหญ่แล้วจะมีเงินปลอมให้ทดลองเทรด (Demo Account) จึงควรศึกษาให้เข้าใจก่อนแล้วค่อยเล่นด้วยเงินจริง การตั้งใจศึกษาและฝึกฝนจนเกิดความชำนาญจะทำให้คุณประสบความสำเร็จในการเทรด Forex ได้
เริ่มต้น forex อย่างไร
ก่อนอื่นก็ต้องมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการเทรดก่อนนะครับ
- คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง จะเป็น PC หรือ Notebook ก็แล้วแต่สะดวกครับ
- อินเตอร์เน็ต ควรเป็นแบบไฮสปีดหรือหากต่อผ่านมือถือก็ได้เช่นกันครับ
เมื่ออุปกรณ์ในการเทรดพร้อมก็มาเตรียมตัวเพื่อเทรดกันครับ (ไม่มีคอมPCก็ร้านเน็ตครับ...จบเลย...ง่ายดี)
- ศึกษาและฝึกฝน ผมแนะนำให้เล่นด้วย Demo Account(คือบัญชีทดลองเล่น โดยมีเงินจำลอง 1 แสนดอลล่า) จนกว่าคุณจะสามารถทำกำไรได้มากกว่าเสีย จากนั้นค่อยเริ่มเล่นด้วยเงินจริง การเล่นด้วย Demo Account นี้ทุกอย่างคือของจริง ยกเว้นการเล่นได้หรือเสีย จะไม่ได้และไม่เสียจริง เพราะเป็นเงินที่ใช้ทดลองเล่น มือใหม่ควรศึกษาการเทรด ก่อนเทรดด้วยเงินจริง อย่างน้อยก็ควรมองเทรนของตลาดให้ออกก่อน
ศึกษาข้อมูลได้ที่ http://siammetatrader.com/index.php/topic,534.0.html
ป้ายกำกับ:
การซื้อขาย,
การเทรด Forex,
Demo,
FOReign Exchange market,
Gold Future,
leverage,
Retail Forex
วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2558
ทำความรู้จัก Leverage
Leverage คือ พลัง,อำนาจ(ตัวทำให้เรามีอำนาจในการซื้อมากยิ่งขึ้น)
สมมุติว่า 1lot มีมูลค่าเท่ากับ 100,000$
แสดงว่า เราต้องใช้เงินถึง 100,000$ จึงสามารถที่จะเปิดออร์เดอร์ 1lot ได้
คำถาม แล้ว Leverage จะช่วยอะไรเราได้บ้าง?
คำ ตอบ Leverage จะทำให้เรามีอำนาจการซื้อมายิ่งขึ้น ถ้า Leverage เช่น ถ้าเลือก Leverage 1:1,000 แสดงว่าเรามีอำนาจในการซื้อเพิ่มขึ้น 1,000 เท่าของทุนจริง เป็นต้น
แสดงว่า... ถ้าเราเลือก Leverage 1:1,000 เรามีทุนเพียงแค่ 100$ ก็สามารถเทรด 1lotได้
(ทุน 150$ คูณด้วย Leverage 1,000 มีค่าเท่ากับ 100*1,000 = 100,000)
เห็นไหมครับว่า Leverage จะช่วยทำให้เรามีอำนาจในการซื้อมากยิ่งขึ้น
แต่ต้องคำนึงด้วยนะครับว่า "มีข้อดี ก็ย่อมมีข้อเสีย"
Leverage ก็เปรียบเสมือนดาบสองคม มีทั้งดีบ้างละไม่ดีบ้าง ลองดูตัวอย่างตามนี้เลยครับ
สมมุติว่า วิลลี่ มีเงินในบัญชี 100$ เขาได้ใช้ Leverage 0 เขาได้ซื้อหุ้นไป ราคา 10$
คือเขาต้องจ่ายเงินไป 10$ คือจ่ายเต็มราคาเพราะเขาเลือก Leverage 0 เพื่อที่จะซื้อหุ้นตัวนั้นมา
แสดงว่าเงินที่เหลือในบัญชีของ วิลลี่ คือ 90$ ถ้าหากกราฟเคลื่อนที่จุดละ 1$ วิลลี่จะขาดทุนได้มากที่สุด 90 จุด
หาก วันหนึ่งกราฟลงมามากกว่า 90 จุด ทำให้วิลลี่ขาดทุนอย่างหนักจนโดน Margin call (ระบบจะทำการปิดออร์ให้เองอัตโนมัติ) แล้ววิลลี่ ก็จะได้รับเงินส่วนที่ประกันไว้คืน (Used Margin) 10$ ทำเขายังเหลือเงินอยู่ 10$ ที่จะสามารถเทรดต่อไปได้
มาดูอีกตัวอย่างหนึ่งนะครับ
สมมุติว่า วิลลี่ มีเงินในบัญชี 100$ เขาได้ใช้ Leverage 1:10 เขาได้ซื้อหุ้นไป ราคา 10$
เขาต้องจ่ายเงินไปเพียงแค่ 1$ เพราะเขาเลือก Leverage 1:10 เพื่อที่จะซื้อหุ้นตัวนั้นมา
แสดงว่าเงินที่เหลือในบัญชีของ วิลลี่ คือ 99$ ถ้าหากกราฟเคลื่อนที่จุดละ 1$ วิลลี่จะขาดทุนได้มากที่สุด 99 จุด
หาก วันหนึ่งกราฟลงมามากกว่า 99 จุด ทำให้วิลลี่ขาดทุนอย่างหนัก จนโดน Margin call (ระบบจะทำการปิดออร์ให้เองอัตโนมัติ) แล้ววิลลี่ ก็จะได้รับเงินส่วนที่ประกันไว้คืน(Used Margin)วิลลี่ ก็จะได้รับเงินส่วนที่ซื้อไปคืน 0.1$ ทำเขายังเหลือเงินอยู่ 0.1$ คือ แทบจะหมดตูดและไม่สามารถเทรดต่อไปได้อีกเลย
เห็นไหมครับว่า Leverage เปรียบเสมือนดาบสองคมถึงแม้การใช้ Leverage จะทำให้เราซื้อหุ้นมาในราคาต่ำกว่าที่เป็นจริง แต่ถ้าเราไม่รู้จักการตัดขาดทุนหรือไม่มีการวางแผนที่ดีแล้วล่ะก็ มาเลือกLeverage สูงๆ
ศึกษาข้อมูลได้ที่ http://siammetatrader.com/index.php/topic,146.0.html
สมมุติว่า 1lot มีมูลค่าเท่ากับ 100,000$
แสดงว่า เราต้องใช้เงินถึง 100,000$ จึงสามารถที่จะเปิดออร์เดอร์ 1lot ได้
คำถาม แล้ว Leverage จะช่วยอะไรเราได้บ้าง?
คำ ตอบ Leverage จะทำให้เรามีอำนาจการซื้อมายิ่งขึ้น ถ้า Leverage เช่น ถ้าเลือก Leverage 1:1,000 แสดงว่าเรามีอำนาจในการซื้อเพิ่มขึ้น 1,000 เท่าของทุนจริง เป็นต้น
แสดงว่า... ถ้าเราเลือก Leverage 1:1,000 เรามีทุนเพียงแค่ 100$ ก็สามารถเทรด 1lotได้
(ทุน 150$ คูณด้วย Leverage 1,000 มีค่าเท่ากับ 100*1,000 = 100,000)
เห็นไหมครับว่า Leverage จะช่วยทำให้เรามีอำนาจในการซื้อมากยิ่งขึ้น
แต่ต้องคำนึงด้วยนะครับว่า "มีข้อดี ก็ย่อมมีข้อเสีย"
Leverage ก็เปรียบเสมือนดาบสองคม มีทั้งดีบ้างละไม่ดีบ้าง ลองดูตัวอย่างตามนี้เลยครับ
สมมุติว่า วิลลี่ มีเงินในบัญชี 100$ เขาได้ใช้ Leverage 0 เขาได้ซื้อหุ้นไป ราคา 10$
คือเขาต้องจ่ายเงินไป 10$ คือจ่ายเต็มราคาเพราะเขาเลือก Leverage 0 เพื่อที่จะซื้อหุ้นตัวนั้นมา
แสดงว่าเงินที่เหลือในบัญชีของ วิลลี่ คือ 90$ ถ้าหากกราฟเคลื่อนที่จุดละ 1$ วิลลี่จะขาดทุนได้มากที่สุด 90 จุด
หาก วันหนึ่งกราฟลงมามากกว่า 90 จุด ทำให้วิลลี่ขาดทุนอย่างหนักจนโดน Margin call (ระบบจะทำการปิดออร์ให้เองอัตโนมัติ) แล้ววิลลี่ ก็จะได้รับเงินส่วนที่ประกันไว้คืน (Used Margin) 10$ ทำเขายังเหลือเงินอยู่ 10$ ที่จะสามารถเทรดต่อไปได้
มาดูอีกตัวอย่างหนึ่งนะครับ
สมมุติว่า วิลลี่ มีเงินในบัญชี 100$ เขาได้ใช้ Leverage 1:10 เขาได้ซื้อหุ้นไป ราคา 10$
เขาต้องจ่ายเงินไปเพียงแค่ 1$ เพราะเขาเลือก Leverage 1:10 เพื่อที่จะซื้อหุ้นตัวนั้นมา
แสดงว่าเงินที่เหลือในบัญชีของ วิลลี่ คือ 99$ ถ้าหากกราฟเคลื่อนที่จุดละ 1$ วิลลี่จะขาดทุนได้มากที่สุด 99 จุด
หาก วันหนึ่งกราฟลงมามากกว่า 99 จุด ทำให้วิลลี่ขาดทุนอย่างหนัก จนโดน Margin call (ระบบจะทำการปิดออร์ให้เองอัตโนมัติ) แล้ววิลลี่ ก็จะได้รับเงินส่วนที่ประกันไว้คืน(Used Margin)วิลลี่ ก็จะได้รับเงินส่วนที่ซื้อไปคืน 0.1$ ทำเขายังเหลือเงินอยู่ 0.1$ คือ แทบจะหมดตูดและไม่สามารถเทรดต่อไปได้อีกเลย
เห็นไหมครับว่า Leverage เปรียบเสมือนดาบสองคมถึงแม้การใช้ Leverage จะทำให้เราซื้อหุ้นมาในราคาต่ำกว่าที่เป็นจริง แต่ถ้าเราไม่รู้จักการตัดขาดทุนหรือไม่มีการวางแผนที่ดีแล้วล่ะก็ มาเลือกLeverage สูงๆ
ศึกษาข้อมูลได้ที่ http://siammetatrader.com/index.php/topic,146.0.html
วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2558
ตารางคิดหน่วยลงทุน EXNESS Leverage 1:2000
ตารางคิดหน่วยลงทุน EXNESS Leverage 1:2000
ศึกษาข้อมูลได้ที่ http://siammetatrader.com/index.php/topic,88.0.html
วันพุธที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2558
สิ่งที่ผู้เทรด Forex จำเป็นต้องทำ
เป็นที่เชื่อกันว่า มากกว่า 50% ของผู้ที่เล่น Forex นั้นขาดทุนในระยะยาว แต่ก็ยังคงมีนักเล่น Forex หน้าใหม่จำนวนมาก กระะโดดเข้ามาในตลาด Forex ทำการซื้อขาย อย่างไร้หลักการ และขาดทุนกลับไป เป็นที่หน้าแปลกใจที่ส่วนใหญ่ของ ผู้เทรดที่ขาดทุนนั้น ทำการเทรดเหมือนพนัน (ไม่ใช่การลงทุน) เงินทุนของพวกเขา เข้าไปในตลาด Forex โดยไม่ได้มีการตรวจสอบกับหลักการเลย ไม่ว่าคุณจะมีประสบการณ์ หรือเป็นผู้เริ่มต้น กับตลาด Forex มีสิ่งที่จำเป็น "ต้องทำ" ในการเข้าเทรด Forex เพื่ออบริหารความเสี่ยงอย่างฉลาด และเพิ่มโอกาศในการทำกำไร
สิ่งที่ผู้เทรด Forex ต้องทำ 1 ลงทุนกับสมองของคุณเป็นอันดับแรก
ถ้าคุณต้องการลงทุนในตลาด Forex อย่างจริงจัง การสร้าง ทักษะการเทรด และความรู้ เป็นสิ่งแรกที่คุณต้องทำ การเข้าสมนา Workshop, วิดีโอการสอน, การเรียนรู้ออนไลน์ หรือแม่กระทั้ง หนังสือ เพื่อช่วยให้เราเรียนรู้จากนักเทรดมืออาชีพ เรียนรู้การใช้ กราฟ ทางเทคนิค ประกอบการตัดสินใจการเข้าเทรด เรียนรู้การใช้ indicator เพื่อเป็นตัวชี้จังหวะ การเข้า และออกจากตลาด สร้างประสบการณ์ ด้วยการเทรดผ่านบัญชีจำลอง ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่มีประสิทธิภาพ และสามารถให้คุณเริ่มต้นกับ Forex ได้อย่างราบรื่น และสามารถ ลดโอกาศในการขาดทุนได้อย่างแน่นอน
สิ่งที่ผู้เทรด Forex ต้องทำ 2 เริ่มต้นกับระบบเทรดที่เหมาะสม
เป็นสิ่งที่ฉลาด และควรทำ ที่จะค้นคว้าหาข้อมูล และพิจารณา ระบบของโบรคเกอร์ทั้งหมดที่มี ก่อนที่เราจะเลือกใช้เเพื่อทำการทรดจริง ระบบของโบรคเกอร์ที่แตกต่างกันนั้นเช่น ระบบการแสดงกราฟ ระบบการเทรดอัตโนมัติ ระบบเทรดที่ได้ออกแบบมาอย่างดี
จะช่วยให้งานของเราน้อยลง สิ่งนี้จะช่วยให้เรามีเวลา ที่จะเรียนรู้ตลาด และวางแผนกลยุทธ์ชองเราได้มากยิ่งขึ้น อีกสิ่งที่ทำให้ระบบเทรดอัตโนมัติ นั้นมีประโยชน์มาก นั้นคือ การใช้ระบบเทรดอัตโนมัติ จะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงการเทรดโดยใช้อารมณ์ได้
สิ่งที่ผู้เทรด Forex ต้องทำ 3: มีแผนการเทรดอย่างชัดเจน
อย่างที่ผู้เฒ่า ผู้แก่ กล่าวไว้ว่า "การล้มเหลวในการวางแผน เป็นแผนสำหรับความล้มเหลว" การเทรดในตลาด Forex นั้น เหมือนกับการ พายเรือในทะเล คุณจะไม่สามารถไปไหนได้เลย ถ้าไม่มี เข็มทิศ และตัวนำทาง อะไรเป็นจุดประสงค์ของการเทรด? คุณคาดหวังจะได้กำไรจากการเทรดเท่าไหร่? เมื่อไหร่ถึงจะเข้าไปในตลาด? จะลงทุนเท่าไหร่? จะออกจากตลาดที่ราคาเท่าไหร่? ถ้าทั้งหมดไม่เป็นไปตามแผน จะ stop loss เมื่อไหร่? จะทนต่อความเสี่ยงได้ขนาดไหน? แผนการเทรดที่ดี อย่างน้อยควรจะตอบคำถามทั้งหมดนี้ได้ ถ้าแผนการเทรดของคุณไม่ประสบผลสำเร็จ ตรวจสอบ และแก้ไข แผนการเทรดของคุณ ค้นหาสิ่งที่ผิดพลาด แล้วเรียนรู้จากมัน
สิ่งที่ผู้เทรด Forex ต้องทำ 4: มีการบริหารเงินทุนที่ดี
การบริหารเงินทุน เป็นสิ่งที่ควบคุมความเสี่ยงของคุณ และช่วยในการตัดสินใจในการออกจากตลาด โดยให้น้ำหนักจาก โอกาศในการทำกำไร เปรียบเทียบกับ โอกาศในการขาดทุน ตัวอย่างเช่น ในสถานะการหนึ่ง ถ้าไม่เป็นไปตามแผน คุณอาจจะขาดทุน $1000 แต่ถ้าเป็นไปตามแผน คุณจะได้กำไร $500 โดยแผนนี้สำเร็จ 8 ครั้ง จากทั้งหมด 10 ครั้ง นั้นเป็นการดีกว่า การทำกำไร $1000 ถ้าเป็นไปตามแผน แต่ถ้าไม่เป็นไปตามแผนจะขาดทุน $500 โดยแผนนี้สำเร็จเพียงแค่ 1 ครั้งจากทั้งหมด 3 ครั้ง ถ้าคุณลงทุนโดยใช้เงินเก็บของคุณเอง การบริหารเงินทุนนี้ ยิ่งเป็นสิ่งสำคัญ เพราะโอกาศที่คุณจะพลาดการลงทุนที่ดี เนื่องจากเงินทุนของคุณมีไม่มากนั้น สูง
สิ่งที่ผู้เทรด Forex ต้องทำ 5: ลงทุนอย่างมีวินัย
การเทรด Forex อย่างมีวินัย นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ ความสำเร็จจากการเทรด Forex นั้นไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เพียงแค่ คุณมีแผนการเทรดที่ดีเท่านั้น อีกสิ่งที่สำคัญ และจำเป็น นั้นคืคุณต้องทำตามแผนนั้นอย่างมีวินัยด้วย เทรดตามแผน และไม่เทรดตามอารมณ์ ถึง จะขาดทุน หรือกำไร ความโลภอาจทำให้กำไรของคุณหายไป ในขณะที่ ความกลัว อาจะทำให้คุณพลาดโอกาศที่ดี ในตลาดได้เช่นกัน
กำไรจากตลาด Forex นั้นสูง และ เร็ว กว่าการเทรดชนิดอื่นมาก อย่างไม่ต้องสงสัย การเข้าถึงตลาดนั้นก็ไม่มีข้อจำกัด, ความลื่นไหลของตลาด, เป็นการลงทุน โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนมาก ด้วย อัตรา leverage ที่สูง และ ไม่มีข้อจำกัดในการ Short Selling ทำให้ตลาด Forex สามารถทำกำไรได้สูงมาก จำไว้เสมอว่า การวางแผนการลงทุนอย่างฉลาด โดยการลงทุนให้กับตัวเงก่อน คุณจะได้รางวัลอย่างงามที่ปลายทาง
ศึกษาข้อมูลได้ที่ http://siammetatrader.com/index.php/topic,52.0.html
สิ่งที่ผู้เทรด Forex ต้องทำ 1 ลงทุนกับสมองของคุณเป็นอันดับแรก
ถ้าคุณต้องการลงทุนในตลาด Forex อย่างจริงจัง การสร้าง ทักษะการเทรด และความรู้ เป็นสิ่งแรกที่คุณต้องทำ การเข้าสมนา Workshop, วิดีโอการสอน, การเรียนรู้ออนไลน์ หรือแม่กระทั้ง หนังสือ เพื่อช่วยให้เราเรียนรู้จากนักเทรดมืออาชีพ เรียนรู้การใช้ กราฟ ทางเทคนิค ประกอบการตัดสินใจการเข้าเทรด เรียนรู้การใช้ indicator เพื่อเป็นตัวชี้จังหวะ การเข้า และออกจากตลาด สร้างประสบการณ์ ด้วยการเทรดผ่านบัญชีจำลอง ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่มีประสิทธิภาพ และสามารถให้คุณเริ่มต้นกับ Forex ได้อย่างราบรื่น และสามารถ ลดโอกาศในการขาดทุนได้อย่างแน่นอน
สิ่งที่ผู้เทรด Forex ต้องทำ 2 เริ่มต้นกับระบบเทรดที่เหมาะสม
เป็นสิ่งที่ฉลาด และควรทำ ที่จะค้นคว้าหาข้อมูล และพิจารณา ระบบของโบรคเกอร์ทั้งหมดที่มี ก่อนที่เราจะเลือกใช้เเพื่อทำการทรดจริง ระบบของโบรคเกอร์ที่แตกต่างกันนั้นเช่น ระบบการแสดงกราฟ ระบบการเทรดอัตโนมัติ ระบบเทรดที่ได้ออกแบบมาอย่างดี
จะช่วยให้งานของเราน้อยลง สิ่งนี้จะช่วยให้เรามีเวลา ที่จะเรียนรู้ตลาด และวางแผนกลยุทธ์ชองเราได้มากยิ่งขึ้น อีกสิ่งที่ทำให้ระบบเทรดอัตโนมัติ นั้นมีประโยชน์มาก นั้นคือ การใช้ระบบเทรดอัตโนมัติ จะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงการเทรดโดยใช้อารมณ์ได้
สิ่งที่ผู้เทรด Forex ต้องทำ 3: มีแผนการเทรดอย่างชัดเจน
อย่างที่ผู้เฒ่า ผู้แก่ กล่าวไว้ว่า "การล้มเหลวในการวางแผน เป็นแผนสำหรับความล้มเหลว" การเทรดในตลาด Forex นั้น เหมือนกับการ พายเรือในทะเล คุณจะไม่สามารถไปไหนได้เลย ถ้าไม่มี เข็มทิศ และตัวนำทาง อะไรเป็นจุดประสงค์ของการเทรด? คุณคาดหวังจะได้กำไรจากการเทรดเท่าไหร่? เมื่อไหร่ถึงจะเข้าไปในตลาด? จะลงทุนเท่าไหร่? จะออกจากตลาดที่ราคาเท่าไหร่? ถ้าทั้งหมดไม่เป็นไปตามแผน จะ stop loss เมื่อไหร่? จะทนต่อความเสี่ยงได้ขนาดไหน? แผนการเทรดที่ดี อย่างน้อยควรจะตอบคำถามทั้งหมดนี้ได้ ถ้าแผนการเทรดของคุณไม่ประสบผลสำเร็จ ตรวจสอบ และแก้ไข แผนการเทรดของคุณ ค้นหาสิ่งที่ผิดพลาด แล้วเรียนรู้จากมัน
สิ่งที่ผู้เทรด Forex ต้องทำ 4: มีการบริหารเงินทุนที่ดี
การบริหารเงินทุน เป็นสิ่งที่ควบคุมความเสี่ยงของคุณ และช่วยในการตัดสินใจในการออกจากตลาด โดยให้น้ำหนักจาก โอกาศในการทำกำไร เปรียบเทียบกับ โอกาศในการขาดทุน ตัวอย่างเช่น ในสถานะการหนึ่ง ถ้าไม่เป็นไปตามแผน คุณอาจจะขาดทุน $1000 แต่ถ้าเป็นไปตามแผน คุณจะได้กำไร $500 โดยแผนนี้สำเร็จ 8 ครั้ง จากทั้งหมด 10 ครั้ง นั้นเป็นการดีกว่า การทำกำไร $1000 ถ้าเป็นไปตามแผน แต่ถ้าไม่เป็นไปตามแผนจะขาดทุน $500 โดยแผนนี้สำเร็จเพียงแค่ 1 ครั้งจากทั้งหมด 3 ครั้ง ถ้าคุณลงทุนโดยใช้เงินเก็บของคุณเอง การบริหารเงินทุนนี้ ยิ่งเป็นสิ่งสำคัญ เพราะโอกาศที่คุณจะพลาดการลงทุนที่ดี เนื่องจากเงินทุนของคุณมีไม่มากนั้น สูง
สิ่งที่ผู้เทรด Forex ต้องทำ 5: ลงทุนอย่างมีวินัย
การเทรด Forex อย่างมีวินัย นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ ความสำเร็จจากการเทรด Forex นั้นไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เพียงแค่ คุณมีแผนการเทรดที่ดีเท่านั้น อีกสิ่งที่สำคัญ และจำเป็น นั้นคืคุณต้องทำตามแผนนั้นอย่างมีวินัยด้วย เทรดตามแผน และไม่เทรดตามอารมณ์ ถึง จะขาดทุน หรือกำไร ความโลภอาจทำให้กำไรของคุณหายไป ในขณะที่ ความกลัว อาจะทำให้คุณพลาดโอกาศที่ดี ในตลาดได้เช่นกัน
กำไรจากตลาด Forex นั้นสูง และ เร็ว กว่าการเทรดชนิดอื่นมาก อย่างไม่ต้องสงสัย การเข้าถึงตลาดนั้นก็ไม่มีข้อจำกัด, ความลื่นไหลของตลาด, เป็นการลงทุน โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนมาก ด้วย อัตรา leverage ที่สูง และ ไม่มีข้อจำกัดในการ Short Selling ทำให้ตลาด Forex สามารถทำกำไรได้สูงมาก จำไว้เสมอว่า การวางแผนการลงทุนอย่างฉลาด โดยการลงทุนให้กับตัวเงก่อน คุณจะได้รางวัลอย่างงามที่ปลายทาง
ศึกษาข้อมูลได้ที่ http://siammetatrader.com/index.php/topic,52.0.html
ป้ายกำกับ:
การซื้อขาย,
การลงทุน,
เทคนิค,
โบรคเกอร์,
โอกาส,
Indicator,
leverage,
Short Selling,
Stop loss
วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2558
Rodrigo Villela เทรดเดอร์ชาวเม็กซิกัน
Rodrigo Villela นักธุรกิจชาวเม็กซิโก เขาเริ่มต้นเข้าสู่วงการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนด้วยเหตุผลทางธุรกิจ เนื่องจากบริษัทของเขาเป็นธุรกิจนำเข้าส่งออกระหว่างประเทศ ทำให้มีรายรับและต้นทุนเป็นสกุลเงินต่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เขาจำเป็นต้องใช้การซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าเพื่อกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนที่เหมาะสมไว้ก่อน เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงิน (Hedging) ซึ่งจะมีผลต่อกำไรขาดทุนของบริษัทเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หลังจาก Rodrigo ศึกษาตลาดอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ไม่นาน เขาได้เริ่มเห็นโอกาสทำเงินในตลาดแห่งนี้ในฐานะตลาดแห่งการเก็งกำไรมากขึ้น และเนื่องจากเขาเคยเก็งกำไรในตลาดหุ้นและฟิวเจอร์มาก่อนทำให้เขาสามารถมองเห็นอะไรบางอย่างในตลาดแห่งนี้ที่ตลาดหุ้นไม่มี ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจย้ายเข้าสู่การเก็งกำไรในตลาดค่าเงินอย่างจริงจัง เขาให้เหตุผลไว้หลายประการถึงความน่าสนใจในตลาดค่าเงิน
ข้อแรก ตลาด forex เป็นตลาดที่ใหญ่และมีสภาพคล่องมากที่สุดในโลก เขากล่าวว่าเขาไม่ชอบการ day trade ในตลาดหุ้นเพราะมันมีข้อจำกัดค่อนข้างมาก บางครั้งคุณก็จำเป็นต้องเทรดในหุ้นที่คุณไม่ต้องการ และเมื่อคุณซื้อหุ้น บางครั้งคุณก็จำเป็นต้องสนใจเรื่องของธุรกิจของหุ้นนั้นบ้าง เพราะการซื้อหุ้นคือคุณกำลังซื้อส่วนหนึ่งของธุรกิจ บางช่วงเวลามันแยกออกจากกันไม่ขาดจริงๆ โดยเฉพาะเวลาที่ราคามันไม่เป็นอย่างที่คุณคิด ดังนั้นการเก็งกำไรในตลาดหุ้นจึงเป็นให้เขาปั่นป่วนในบางครั้ง
ข้อสอง ในตลาด forex เราสามารถควบคุมความเสี่ยงได้มากกว่าตลาดหุ้น หากคุณมีการบริหารจัดการเงินทุนที่ดี ค่าเงินแม้จะผันผวนค่อนข้างมากเมื่อเราพิจารณาเป็น PIP หรือ point แต่มันไม่เคยเคลื่อนไหวเกิน 10% ในแต่ละวัน
ข้อสาม ในตลาด forex คุณสามารถ leverage เงินทุนได้เท่าที่คุณต้องการ นั่นมีความหมายมากทีเดียวสำหรับผู้ที่มีเงินทุนไม่สูงนัก ซึ่งสำหรับรายย่อยโบรกเกอร์บางแห่งให้ leverage ได้เป็น 1000 เท่า!! ว้าว แต่นั่นก็ทำให้มือใหม่หลายคนโลภได่เช่น จุดนี้เป็นเรื่องที่ต้องระวัง สำหรับมือใหม่ที่แยกไม่ออกระหว่างการเก็งกำไรกับการพนัน
และข้อสุดท้าย ตลาด forex สามารถซื้อขายได้ 24 ชั่วโมง นั่นหมายความว่าคุณไม่ต้องทนเห็นราคาเปิดกระโดดหรือตกฮวบ (Gap) ในช่วงตลาดเปิดของเช้าวันใหม่อย่างในตลาดหุ้น ยกเว้นในวันจันทร์หลังหยุดสุดสัปดาห์ เพราะบางครั้ง อาจมีข่าวแรงๆ หรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ตลาดปิด ซึ่งเราไม่สามารถปรับพอร์ตได้ นั่นเป็นสิ่งที่เอาแน่เอานอนไม่ได้เลย
สไตล์ในการเทรดของ Rodrigo
สำหรับหลักการในการเก็งกำไร Rodrigo เปิดเผยว่า โดยส่วนตัวแล้วเขาใช้ทั้งเทคนิคคอลและปัจจัยพื้นฐานในการตัดสินใจเข้า order และเขาไม่คิดว่าการเลือกดูกราฟหรือปัจจัยพื้นฐานเพียงอย่างเดียวนั้นจะสามารถทำกำไรได้ในระยะยาว ซึ่งเขาจะใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานในการมอนิเตอร์โอกาสในการเก็งกำไร และเลือกทิศทางตลาดที่จะเข้าเทรด
"ผมจะให้ความสนใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับข้อมูลและข่าวทุกอย่างที่บ่งชี้ถึง สภาพคล่อง ไม่ว่าจะเป็น เงินในระบบเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยของประเทศนั้นๆ และอัตราดอกเบี้ยเปรียบเทียบประเทศอื่น รวมถึงผลตอบแทนพันธบัตร (yield curves) ฯลฯ หลังจากนั้น ผมจึงใช้เทคนิคคอลเพื่อหาจังหวะในการเข้าเทรด ผมจะไม่ใช้แค่กราฟเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจซื้อขาย เพราะว่าคุณไม่สามารถจะคาดการณ์อนาคตได้ด้วย indicator เท่านั้น ซึ่งหลังจากผมเลือกข้างโดยการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานแล้ว ผมจะใช้เทคนิคคอลเพื่อหาราคาที่ดีที่สุดในการเข้า order และดูกราฟเพื่อจับจังหวะการเคลื่อนไหวของราคาเพื่อใช้ในการออกและ take profit เมื่อผมเห็นว่าราคาได้วิ่งมาไกลพอแล้ว ตรงจุดนี้กราฟสามารถแสดงให้คุณเห็นได้เป็นอย่างดี "
"และผมต้องขอบอกพวกคุณว่าคุณไม่สามารถนำระบบเทรดของคุณไปประยุกต์ใช้ในทุกๆตลาด ยกตัวอย่างเช่น ตลาดหุ้นเมื่อเปรียบเทียบกับ forex มันถือว่าเคลื่อนไหวช้ากว่ามาก คุณจำเป็นต้องวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นในมุมมองอื่นๆ เพราะหุ้นมันจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของธุรกิจ ดังนั้น คุณจำเป็นต้องวิเคราะห์เศรษฐกิจทั้งตลาด จากนั้นจึงวิเคราะห์ตัวบริษัท สำหรับผมแล้ว การลงทุนในหุ้นนั้นมันง่ายกว่าเพราะอย่างน้อยคุณก็สามารถประเมินความถูกแพงของหุ้นได้ แต่สำหรับค่าเงินนั้นมันไม่ง่าย !!!!"
นักลงทุนหลายๆคน พยายามมองการประเมินมูลค่าของค่าเงิน ให้เหมือนกับการประเมินมูลค่าหุ้น คือคิดว่าค่าเงินหนึ่งๆ เป็นตัวแทนของประเทศนั้นๆ แล้วพยายามจะประเมินความแข็งแกร่งของประเทศ แต่เชื่อผมเหอะ กับค่าเงินคุณมันไม่ได้อยู่ในวิถีที่คุณจะประเมินความสามารถในการทำกำไรของประเทศนั้นๆได้อย่างถูกต้องหรอก มันยากที่เราจะแกะภาพหามูลค่าของประเทศ ดังนั้น การลงทุนในตลาด forex มันจึงง่ายกว่าหากคุณใช้เทคนิคคอลในการหาจังหวะเข้า order ซึ่งสำหรับผม เขาจะสนใจปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลต่อสภาพคล่องของค่าเงินเท่านั้น เขาจะไม่พยายามมองให้ประเทศ อยู่ในรูปของบริษัทที่ต้องแสวงหากำไร เพราะมันไม่ใช่!!!
คู่เงินที่เลือกเก็งกำไร
Rodrigo เผยว่าเขาจะเทรดเฉพาะค่าเงินเปโซเม็กซิกันเท่านั้น เพราะเหตุผลเรื่องธุรกิจส่งออกของเขา และเขาเข้าใจพฤติกรรมของมันเป็นอย่างดี แต่เขาก็ยังคงติดตามค่าเงินอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย
เทรดทุกวันหรือไม่
Rodrigo บอกว่าเขาติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดค่าเงินมาตังแต่ 1998 และหลงรักมัน เขาจึงมักเข้าซื้อขายแทบทุกวันสำหรับพอร์ตส่วนตัว แต่พอร์ตของบริษัทส่งออกของเขาจะซื้อขายเฉพาะเมื่อเห็นโอกาสหรือเมื่อบริษัทจำเป็นต้องประกันความเสี่ยงจริงๆ เท่านั้น
"สิ่งที่ผมบอกคุณได้ มันคือความหลงไหล ตั้งแต่ผมเริ่มเทรดมา ผมก็มักจะพยายามเปิด position ในตลาดหนึ่งตลาดใดอยู่เสมอ"
คุณคิดว่าคุณเป็นเทรดเดอร์ที่มีวินัยไหม?
Rodrigo บอกว่าเขาคิดว่าเขาเป็นเทรดเดอร์ที่มีวินัยสูงมาก ไม่ใช่แค่ในเรื่องของการเทรด แต่ในทุกมุมของชีวิต เขาคิดว่าเทรดเดอร์ที่ต้องการจะประสบความสำเร็จจำเป็นต้องมีวินัย เขาเชื่อว่าไม่มีใครสามารถได้รับสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตได้ด้วยตัวเอง หากปราศจากชีวิตที่ดำรงอยู่ด้วยวินัย ในเรื่องของการเทรดก็เช่นกัน การเทรดของเขาจึงดำเนินไปด้วยวินัยอย่างเคร่งครัด จนมันกลายเป็นเหมือนเครื่องจักร กลายเป็นกิจวัตร เขาจะไม่เทรดโดยใช้อามรมณ์ หรือความตื่นเต้น แต่เขาจะเทรดก็ต่อเมื่อทุกอย่างมันถูกต้องเป็นไปตามระบบเท่านั้น
ข้อแนะนำสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่
คุณต้องจินตนาการว่าคุณกำลังขับรถแข่งกับนักขับคนอื่นๆ อีกนับพัน ส่วนนึงในนั้นเป็นสุดยอดนักขับของโลก พวกเขามีพรสวรรค์และมีเครื่องยนต์สุดไฮเทค โดยการแข่งขันเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืนท่ามกลางหมอกที่ลงจัด นี่คือสิ่งที่ดีมากสำหรับคุณที่จะจินตนาการได้ว่า FX คืออะไร เทรดเดอร์ทุกคนอยู่ในสนามแข่ง และต้องการจะเป็นผู้ชนะ แต่ถ้าคุณขับรถเร็วเกินไป คุณก็จะไม่ได้อยู่ในสนามแห่งนี้นานนักหรอก
ถ้าคุณหวังจะเทรดเป็นอาชีพหลัก จำไว้ว่าคุณจำเป็นต้องอุทิศส่วนนึงที่สำคัญในชีวิตคุณเพื่อที่จะทำมัน นี่มันคือธุรกิจในระยะยาว พยายามทำให้มันง่ายซะและอย่าพยายามเสี่ยงมากเกินไป ถ้าคุณยังเป็นนักศึกษา ตั้งใจเรียนซะ โดยเฉพาะวิชาเลข สถิติ เศรษฐศาสตร์มหภาค ทฤษฎีเกี่ยวกับการเงิน และทุกๆอย่างที่จำเป็นที่จะทำให้คุณเข้าใจกลไกของตลาด อ่านและวิเคราะห์ให้มากๆ ก่อนที่คุณจะเริ่มเทรด และที่สำคัญ อย่าเสียเวลากับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง
สุดยอดเทรดเดอร์จะมีความเข้าใจในเรื่องความเสี่ยงอย่างลึกซึ่ง เขาสามารถคำนวณและรักษาระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมในทุกๆการเทรด ดังนั้น คุณต้องเริ่มเทรดด้วยจำนวนเงินน้อยๆก่อน แล้วค่อยๆทบต้นมันขึ้นไป นี่คือหนทางที่จะทำคุณได้มีอิสรภาพทางการเงิน
บทเรียนสำคัญที่ได้จากการเทรด forex ?
Rodrigo บอกว่ามันดีที่จะเป็นฝ่ายถูก แต่แม้คุณจะเล่นถูกทางคุณก็อาจขาดทุนได้ คุณจำเป็นต้องเปลี่ยนมุมมองต่อตลาดทันทีที่ sentiment ตลาดเปลี่ยน ในที่สุดแล้ว มันไม่สำคัญว่าคุณจะถูกหรือผิด แต่มันอยู่ที่ว่าคุณกำไรหรือขาดทุนมากกว่า
มันคือความอ่อนน้อมถ่อมตัวให้กับตลาด "ผมเรียนรู้ว่าเราไม่สามารถมั่นใจมากเกินไปเกี่ยวกับสิ่งที่เรารู้ ผมต้องต่อสู้กับตัวเองทุกๆวันเพื่อที่จะเป็นคนถ่อมตัวที่มีความอดทน พยายามมองหาเบาะแสที่จะบอกผมเกี่ยวกับทิศทางตลาด พยายามเก็บความโลภและความปรารถนาอย่างอื่นให้อยู่ในความควบคุมของผม ต่อสู้กับตัวเองเพื่อที่จะตระหนักและใส่ใจถึงความเสี่ยง เพื่อที่จะตระหนักถึงความโชคดีในชีวิตและในตลาด เพื่อที่จะเชื่อมั่นถึงความจริงที่อยู่เบื้องหลังกฎเกณฑ์ที่แน่นอน และเหนือสิ่งอื่นใดคือต่อสู้เพื่อที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องไม่ว่ามันจะส่งผลต่อผมยังไงก็ตาม "
|
ป้ายกำกับ:
การซื้อขาย,
กำไร,
ตลาดหุ้น,
โบรกเกอร์,
พื้นฐาน,
day trade,
leverage,
orderโอกาส,
PIP
มีทุนน้อยจะลงทุนใน Forex อย่างไรดี?
- จากที่เราสั่งซื้อด้วยเงินเพียง $1 ของเราเอง กำไรมันน้อยนิดมาก ขนาด +50 จุดยังทำเงินได้ 17 สตางค์เอง หากเราอยากทำกำไรเยอะๆ เช่น pip ละ $1 (50 pip ก็คือ $50) เราต้องสั่งเทรดถึง $10,000 เลยทีเดียว มีทุนไม่พอแน่ ทำไงดี ตรงนี้แหล่ะคjtที่ Leverage เข้ามามีผล Leverage มีผลกับการ เทรด Forex อย่างไร เรามาดูกัน
มารู้จัก Leverage กันค่ะ
- Leverage 1:100 แปลว่า เราใช้ทุนของเราเองเพียง 1 เพื่อสั่งซื้อ-ขาย 100 เช่น เราจะสั่งซื้อ EUR มาถือไว้ โดยจะซื้อที่ราคา 1.3502 จำนวน 100 USD (คือได้มา 74.0631 EUR) เราไม่ต้องใช้ 100 USD ค่ะ เราจะใช้เพียง 1 USD เพื่อแลก 74.0631 EUR มาถือไว้ ซึ่งเมื่อเราขายคืนไปที่ 1.3552 หรือกำไรมา 0.0050 แทนที่เราจะกำไรแค่ นั้น จะกลายเป็นว่าเราจะทำกำไรได้ 0.50 usd แปลว่าเราสามารถทำกำไรได้ 50% จากเงินที่เราลง (เราลงเพียง $1 เพื่อทำกำไร $0.50)
- แต่ไม่ต้องห่วงนะค่ะ ว่าเราจะมีเงินพอรึเปล่า เวลามี Leverage แบบนี้ เพราะเวลาเทรดเราจะสั่งเทรดอย่างมาก ไม่เกิน 40% ของทุน (แต่แนะนำที่ 10% ค่ะ จะได้มีเหลือไว้แก้ตัว) เช่นถ้าเรามีทุน $100 เราก็สั่งเทรดเพียง $10 หรือ 10% (แต่เวลาสั่ง $10 คือ 1,000 unit นะค่ะ ที่ Leverage 1:100) 10% ที่ใช้ เราจะเรียกว่า used margin เวลาราคาวิ่งขึ้นหรือลง มันจะมาบวก หรือ ลบ ที่ 90% ที่เหลือ หรือที่เรียกว่า available margin หากเราติดลบไปเรื่อยๆ จน available หมด ระบบจะทำการตัดขาดทุน โดยการปิด order นี้ โดยอัตโนมัติ นั่นคือ โบรกเกอร์จะไม่ยอมขาดทุนแทนเราหรอกค่ะ
- คิดคร่าวๆ คือ เราจะทำกำไร (ขาดทุน) ได้ ประมาณ 1% ต่อ pip จากเงินทุนของเรา (คู่อื่นอาจจะไม่ถึง 1% บางคู่ก็มากกว่า เช่น EUR/GBP ตกประมาณ 2% ค่ะ) นั่น หมายความว่า ด้วยทุนเพียง $100 (3,400 บาท) คุณจะสามารถทำกำไรได้ถึงจุดละ $1 (สั่งเทรด 10,000 unit) หากทำได้ 10 จุดต่อวัน ก็วันละ $10 หรือ 340 บาท (โดยประมาณ) หรือวันละ 10% และด้วยทุนเพียง $1,000 (34,000 บาท) เราจะสามารถทำกำไรได้ถึงจุดละ $10 (สั่งเทรด 100,000 unit) หากทำได้ 10 จุดต่อวัน ก็วันละ $100 หรือ 3,400 บาท หรืออาจจะเริ่มเพียง $1 (34 บาท) โดยจะได้จุดละประมาณ 1 เซ็นต์
- ค่อยๆ สะสมไปก็ได้ค่ะ เพราะมีแล้วคนที่ปั้น $5 จากทุนฟรีที่ Marketiva (โบรกเกอร์) มีให้ ไปเป็น $1,000 ใน 3 เดือน ลอง คิดดูเล่นๆู ล่ะกันค่ะ ถ้าเพียงคุณสามารถทำกำไรได้ 10% ของทุนต่อวัน เพิ่มไปเรื่อยๆ 6 เดือน (120 วันเทรด) จะเป็นเงินเท่าไหร่ จากทุนเพียง $5 เป็น $463,545.34 หรือ 15,765,541.60 บาท ครับ โอ้ววววว พระเจ้าช่วย (ทำได้แค่ 5% ของไอเดียนี้ก็สุดยอดแล้วค่ะ)
- ปกติ EUR/USD จะไม่แรงมาก ทำวันละ 20-30 จุดได้ หากเป็นบางคู่ เช่น GBP/JYP (ทุกวันนี้ผมเล่น GBP/JYP เป็นหลัก เพราะแรง เร้าใจ) ดิฉันเคยทำได้มากสุด +250 จุด เพียงช่วงเวลาที่หลับ (เที่ยงคืน) จนมาถึงเวลาที่ตื่น (7 โมงครึ่ง) หรือ 250% ของเงินทุนที่เทรด
- ที่ FxOpen (โบรกเกอร์) ให้เราสามารถ up Leverage ได้สูงสุดถึง 1:500 นั่นแปลว่า เราใช้ทุนตัวเองเพียง $200 ในการเทรด 100,000 unit (หรือ 1 lot จะได้จุดละ $10) เอง
- แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Leverage ก็เป็นดาบ 2 คม ที่ทั้งทำให้ รวย-จน ได้ในพริบตา Leverage และการที่มันวิ่งขึ้นลงทั้งวัน นี่แหล่ะค่ะ ที่ทำให้ Forex สนุก และเร้าใจ
คุณสามารถลงทุนใน Forex แทนได้ โดยใช้ทุนเริ่มต้นเพียงน้อยนิด มาเริ่มเรียนรู้การลงทุนและทำเงินจาก Forex Trading ได้ที่นี่ และจงจำไว้เสมอว่า "การลงทุนมีความเสี่ยง"
|
ค่าคอมมิสชัน ในการเทรด Forex
โบรคเกอร์ forex หลายโบรคเกอร์ ได้โฆษณาว่าฟรีค่าคอมมิสชัน (Commission) แต่จริงๆ แล้วมันเป็นยังไง?
อัน ที่จริงการเทรด forex นั้นต้องเสียค่าใช้จ่าย (จะเรียกว่าค่าคอมมิสชัน หรือไม่ก็ตาม) ถือว่าสูงมาก เมื่อเทียบกับการซื้อขายหุ้น หรือกองทุนในบ้านเราซึ่งมีค่าคอมมิสชันจะอยู่ที่ประมาณ 0.2% ของมูลค่าที่ทำการเทรด ดังนั้นการที่โบรคเกอร์ forex ส่วนใหญ่ ทำการตลาดโดยอ้างว่า ฟรีค่าคอมมิสชัน ที่จริงแล้วมันไม่จริงทั้งหมด และอาจทำให้เข้าใจผิดได้
ในตลาด forex นั้น คล้าย กับตลาดอื่น ๆ นั้นคือมีการตั้งซื้อ (Bid) และตั้งขาย (Ask) ราคาตั้งซื้อคือราคาที่เราสามารถขายได้ในขณะนั้น ส่วนราคาตั้งขายก็คือราคาที่เราสามารถซื้อได้ในขณะนั้น
ผลต่าง ระหว่างราคาตั้งซื้อ และตั้งขาย นั้นเรียกว่า Spread ยกตัวอย่าง EUR/USD ราคา Bid ที่1.4156 และ Ask ที่ 1.4159 ดังนั้นค่า Spread ของ EUR/USD จะเท่ากับ 0.0003 หรือ 3 PIPS ถ้าเราทำการเปิด Order ทำการซื้อขณะนั้น เราจะซื้อได้ที่ 1.4159 และ Transaction ของเราจะขึ้นเป็น -3 PIPS ทันที ถ้าเราปิดออร์เดอร์ขณะนั้นโดยอัตราแลกเปลี่ยนยังไม่เปลี่ยนแปลงเราจะขายได้ ที่ 1.4156 และขาดทุนทันที 0.0003 หรือ 3 PIPS จะเห็นได้ว่า ถ้ายิ่ง Spread กว้างมาก เราก็จะต้องจ่ายส่วนต่างนี้มากขึ้นไปด้วย ส่วนต่างตรงนี้เองที่ส่วนหนึ่งเป็นรายได้ของโบรคเกอร์ และเรา หรือผู้เทรดจำเป็นจะต้องจ่ายทุกครั้งที่เปิด Order ทำการเทรด
บางคน อาจจะเห็นว่า เสียแค่ 0.0003 จากราคาประมาณ 1.4 นั้นไม่เท่าไหร่เองหนิ ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นก็แค่ประมาณ 0.03% เอง แต่อย่าลืมนะครับว่าการเทรด Forex นั้นมีระบบ Leverage ถ้า Leverage ที่ 1:100 นั้นก็เสมือนว่าเราส่งคำสั่งซื้อด้วยเงินทุน 100 เท่าจากเงินทุนจริงของเรา ดังนั้นถ้าเทียบกับเงินทุนจริงของเรา มันจะไม่ใช่ 0.03% แต่มันจะเป็น 3% นั้นเอง หรือถ้าเทรดในระบบLeverage 1:500 จำนวนเงินตรงนี้ก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีกเป็น 15% ของเงินทุนจริงของเรา ที่นี้จะเห็นเลยใช่ไหม๊ครับ ว่ามันแพงหูฉี่เลยทีเดียว
โบรคเกอร์แต่ ละที่จะมีค่า Spread ที่แตกต่างกันไป รวมไปถึง คู่อัตราแลกเปลียน แต่ละคู่ก็อาจมี Spread ที่แตกต่างกันด้วย หรือแม้กระทั้งคู่สกุลเงินคู่เดียวกัน แต่คนละช่วงเวลา บางโบรคเกอร์ค่า Spread ก็สามารถขึ้นลง และไม่ Fix ด้วยเช่นกัน ดังนั้นก่อนเปิดใช้บริการของโบรคเกอร์ ควรตรวจสอบค่า Spread ของโบรคเกอร์นั้นๆ ให้ดีก่อนนะครับ รวมไปถึงระบบ Spread ของโบรคเกอร์นั้น ๆ ว่าเป็นแบบ Fix คงที่ หรือเปลี่ยนแปลงได้ ในกรณีที่ใช้บริการของโบรคเกอร์ที่ไม่ Fix ค่า Spread ก่อนทำการเทรดทุกครั้ง ต้องตรวจสอบค่า Spread ในขณะนั้นก่อนส่งคำสั่ง ซื้อ ขาย ถ้ารีบร้อนเกิน กลัวไม่ได้ราคาที่เลงไว้ โดยไม่ได้ตรวจสอบ Spread ให้ดี เข้าเทรดไปแล้วอาจจะตกใจภายหลังได้ครับ
จะเห็นได้ว่าการเลือกโบ รคเกอร์ ค่า Spread ก็เป็นจุดสำคัญจุดหนึ่งที่สามารถลดค่าใช้จ่ายของเราได้ ถึงแม่มันจะน้อยเมื่อเทียบ กับราคาที่วิ่งขึ้น วิ่งลง ของอัตราแลกเปลี่ยน แต่ถ้าเราประหยัดตรงนี้ได้ แค่ 1-2% ต่อการเทรดแต่ละครั้ง แต่รวมๆ หลายๆ ครั้งก็ไม่ใช่จำนวนเงินน้อย ๆ เลยนะครับ
ศึกษาข้อมูลได้ที่ http://siammetatrader.com/index.php/topic,53.0.html
ป้ายกำกับ:
การซื้อขาย,
การเทรด,
โบรคเกอร์,
Ask,
Bid,
leverage,
Order,
PIP,
Transaction
วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2558
การลงทุนในตลาด Forex
การลงทุนในตลาด Forex นั้น คล้ายกับการเก็งกำไร ลงทุนซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ในบ้านเรา นั้นคือ ซื้อมา แล้วก็ขายไป กำไรที่ได้มาจากผลต่างของราคาซื้อ และราคาขาย แค่เปลี่ยนจากการซื้อหุ้น เป็นการซื้อเงินตราสกุลต่าง ๆ นั้นเอง
ผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาด Forex นั้นสูงมาก เมื่อเทียบกับการลงทุนในตลาดหุ้น หรือการลงทุนในกองทุน สำหรับผู้ที่พอรู้ หรือติดตามการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน อาจสงสัยว่าการลงทุนในตลาด Forex ซึ่งซื้อขายเงินตราสกุลเงินต่าง ๆ จะให้ผลตอบแทนสูงได้อย่างไร ในเมื่อแต่ละวันอัตราการเปลี่ยนแปลงราคาของสกุลเงินต่าง ๆ นั้นเปลี่ยนแปลงน้อยมาก (ไม่ถึง 1%) คำตอบอยู่ตรงนี้ครับ สิ่งที่ทำให้ตลาด Forex ให้ผลตอบแทนสูงนั้นคือ ระบบ Leverage ซึ่งเปิดโอกาสผู้ลงทุน สามารถลงทุนและทำกำไรได้เหมือนมีทุน เป็นร้อยเท่าจากทุนจริงที่มีอยู่ และสามารถเลือกทำกำไรได้ทั้งขาขึ้น และขาลง ซึ่งทั้งหมดนี้เหมือนกับการลงทุนใน Gold Future, TFEX หรือ SET50 Future ในบ้านเรานั้นเอง เพียงแต่ว่า สัดส่วน Leverage นั้นสูงกว่ามาก หลายคนอาจจะสงสัยกับคำว่าผลตอบแทนสูงนั้น สูงขนาดไหน?? เปรียบเทียบให้เห็นภาพมากขึ้น การลงทุนซื้อหุ้นในตลาดทุนเพื่อเกงกำไรระยะสั้น โอกาสที่จะได้กำไร 10-20% ใน 1 วันนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเกิดได้บ่อย แต่สำหรับตลาด Forex กำไร 10-20% ต่อ 1 วันนั้นเป็นเรื่องปกติ และธรรมดามาก (บางจังหวะ เพียงแค่ 5-10 นาที ก็สามารถทำกำไร 10-20% ก็เป็นไปได้) จะเห็นได้ว่า ผลตอบแทนนั้นสูงมาก และยั่วยวนกิเลสดีจริง ๆ แต่ ในทางกลับกันก็เป็นการลงทุนที่มีอัตราเสี่ยงสูงมาก (มี 100 ก็หมด 100 ได้ไม่ยาก ในเวลาอันสั้นเช่นกัน) ดังนั้นผู้ที่สนใจ และอยากลองลงทุนในตลาด Forex ก่อนลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนนะครับ |
ป้ายกำกับ:
การลงทุน,
กำไร,
เงินตราสกุล,
จังหวะ,
โอกาส,
Gold Future,
leverage
วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2557
เทคนิคการเทรด Forex สำหรับผู้เริ่มต้น
ตลาด forex ได้เปิดกว้างสำหรับบุคคลทั่วไป มาหลายปีแล้ว, มีนักลงทุนจำนวนมากเข้ามาในลงทุนในตลาดเพิ่มขึ้น ทุก ๆ เดือน โดยแต่ละคนก็หวังที่จะเข้ามาทำกำไร และเป็นเศรษฐี จากตลาด forex แต่ผลที่ได้ของนักลงทุนแต่ละคนนั้น ก็แตกต่างกันไป
การเทรดสำหรับ ผู้เริ่มต้น นั้น ไม่ได้เป็นสิ่งที่ซับซ้อนเลย ในความเป็นจริง คุณอาจจะช๊อกก็ได้ เมื่อผมจะบอกว่า นักลงทุนบางคนที่ผมรู้จักได้เข้ามาลงทุนในตลาด forex จนกลายเป็นเศรษฐี!
สิ่งแรกที่คุณ ควรจะเริ่ม นั้นคือ ขอเปิดพอร์ต forex แบบออนไลน์ จากนั้นคุณจะสามารถเข้าไปเทรดจากที่ไหนของโลกก็ได้ อย่าเพิ่งเลือกโบรคเกอร์แรกที่คุณพบ หาตัวเลือกจากหลายๆที่ แล้วลองชั่งน้ำหนัก ข้อดี ข้อเสีย ของแต่ละที่ ก่อนจะตัดสินใจ โดยทัวไปแล้ว โบรคเกอร์ส่วนใหญ่ อนุญาติเปิดบัญชีขนาดเล็ก ซื้งนั้นเหมาะสมที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้น คุณสามารถฝากเงิน โดยใช้เงินเพียงแค่ $100 สำหรับการเริ่มต้น ด้วยระบบ Leverage ซึ่งจะทำให้คุณเปรียบเสมือนมีทุนในการลงทุนมากขึ้นอย่างน้อย 100 เท่า ของทุนจริงที่คุณมี นั้นก็คือ คุณสามารถควบคุมทุน $10,000 จากเงินทุนจริง $100 ของคุณได้
แต่ละโบรคเกอร์ จะมีโปรแกรมซึ่งแสดงกราฟราคา พร้อม indicator ให้เราได้ใช้ เราไม่จำเป็นต้องใช้ indicator ทั้งหมดที่โบรคเกอร์มีให้เพราะมันจะทำให้เราสับสน เราควรทำให้มันเรียบง่าย และเข้าใจง่ายที่สุด!
การตั้งและปรับค่าต่างๆ รวมถึงการทำความคุ้นเคยกับระบบของโบรคเกอร์ในบัญชีของคุณ ควรใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน
ระบบการเทรดนั้น เรียบง่าย ผมจะอธิบาย ระบบง่าย ๆ ซึ่งสามารถทำกำไรได้มาก และเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเข้ามาเทรดในตลาด forex
เริ่มแรก คุณต้องเลือก คู่สกุลเงินที่คุณต้องการเทรดก่อน จากนั้นคอยเรียนรู้ว่ามันเคลื่อนไหวอย่างไร (ตรงนี้ต้องใช้เวลา)
ดูกราฟแบบ 4 ชั่วโมง จากซูมออกมาจนกว่าจะเห็นช่วงเวลาได้ 2 เดือน ถ้ากราฟ เริ่มจากด้านล่าง และไต่ขึ้นบน นั้นหมายถึงเป็นขาขึ้น ในทางตรงกันข้าม ถ้ากราฟเริ่มจากด้านบน และไต่ลงล่าง นั้นแสดงถึงขาลง
เราเทรดโดยดูจากแนวโน้ม ดูการเคลื่อนไหวของราคาว่ามัน เคลื่อนไหวไปทางเดียวกับแนวโน้มหรือไม่ ถ้าเคลื่อนไหวในทางเดียวกัน ใช้ระดับราคาที่ 50% ของแนวกลาง แนวรับ แนวต้าน ของราคา เป็นตัวประกอบการตัดสินใจเลือกจังหวะเข้าเทรด
เข้าเทรดเมื่อระดับราคาเหมาะสม โดยตั้งจุด cut-loss ไว้ที่ จุด ในการเข้าเทรดแต่ละครั้งอย่าเสี่ยงเข้าเทรดโดยใช้ทุนมากกว่า 3% ของบัญชีทั้งหมด
ตรงนี้เป้นจุดสำคัญ สำหรับความสำเร็จของคุณ! เมื่อคุณได้กำไร 100pip เพิ่มทุนเข้าไปครึ่งหนึ่งของการเทรดครั้งแรก คอยเฝ้าดูแนวโน้ม และเพิ่มทุนเข้าไป ทุก ๆ 50 pipsที่เพิ่มขึ้น จากกำไรที่เพิ่มมากขึ้น อย่าเพิ่งปิดการเทรด จนกว่าคุณจะมีเหตุผลที่บ่งชี้ชัดว่า เทรนนี้ ได้จบลงแล้ว
ในการเข้าเทรดครั้งแรกคุณจะไม่ได้ราคาที่วิ่งดีถึง 100 pips ทุกครั้ง แต่มันจะเกิดขึ้นอย่างน้อยเดือนละครั้ง และเมือคุณทำมันได้ คุณจะเห็นถึงประสิทธิภาพของระบบง่าย ๆ นี้ ในกรณีที่ราคาไม่สามารถขึ้นไปถึง 50 pip ได้ คุณก็ควรจะหยุดการเทรด และได้กำไรเล็กน้อย
นี้คือทั้งหมด เรียบง่าย แต่ใช้ได้ดี ได้ผลจริง และเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น เข้ามาเทรดในตลาด forex
|
วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2557
Leverage คืออะไร
ความหมายง่ายๆของ เลเวอเรจ (Leverage) คือ จำนวนเปอร์เซนที่ได้ยืมเงินจากโบรกเกอร์เพื่อทำการเปิดออเดอร์เทรด ยกตัวอย่างเช่นเมื่อคุณซื้อ 100 หุ้นในตลาดหุ้นโดยที่ราคาหุ้นละ 10 $ ต่อหุ้น คุณต้องใช้เงิน 1000$ เพื่อเปิดการเทรด บางโบรกเกอร์ให้คุณยืมเงินเพื่อเทรดสูงถึง 50-80% ของมูลค่าหุ้นทั้งหมด แทนที่คุณจะใช้เงิน 1000$ แต่คุณกลับใช้แค่ 500 $ เท่านั้น เพื่อทำการเทรด สิ่งนี้แหระที่ทำให้เทรดเดอร์สามารถซื้อหุ้นได้มาก โดยใช้เงินเท่าเดิม อย่างไรก็ตามทางโบรกเกอร์ก็จะชาร์จกำไรจากการยืมของคุณ หลักการณ์นี้ก็น้ำมาใช้กับตลาดForex
แต่โบรกเกอร์ฟอเร็กให้ คุณยืมถึง 99 % ของทั้งหมดเพื่อให้คุณเปิดการเทรดและคุณก็ใช้มันเพียงแค่ 1 % เท่านั้น ถ้าคุณต้องการเทรด 1000$ คุณใช้มันเพียงแค่ 10 $ นี่แหระครับ คือความแตกต่างระหว่างตลาดหุ้นและตลาดฟอเร็กซ์ และตลาดฟอเร็กไม่ชาร์จกำไรจากการยืมของคุณด้วย
เอาล่ะครับ หลายๆคนอาจจะงง เรามาดูกันเลยครับ ว่า Leverage ที่โบรกเกอร์ฟอเร็กได้กำหนดไว้มีเท่าไรบ้าง
โดยส่วนมากโบรกเกอร์จะกำหนด Leverage ตั้งแต่
Leverage
1:1
1:2
1:10
1:100
1:200
1:400
1:500
1:1000 เฉพาะบางโบรกเกอร์ เท่านั้นเช่นโบรก Exness และ Instaforex
ผมจะยกตัวอย่างการเทรดที่ Leverage 1:100
สมมติ ว่าผมต้องการซื้อ EUR ที่ 100 units ผมจะใช้เงินของผม 1 units เท่านั้นเพื่อซื้อ EUR 100 units ถ้าซื้อ EUR/USD ที่ราคา 1.2750 เมื่อราคาขึ้นไปถึง 1.2800 ผลต่างของราคาเท่ากับ 50 pips ผมพอใจแล้ว ก็ทำการขาย ผมได้กำไร 50 pips
มาดูตัวอย่างการคำนวณครับ จากหัวข้อ เรื่อง Pips และ Lot ใครยังไม่ได้อ่านกลับไปอ่านนะครับ
(pip value / ราคาที่คุณปิด ) คูณด้วย Unit ที่คุณทำการ Buy Sell
=(0.001/1.2800)*100=0.39 $
หรือ ผมอาจจะคิดแบบนี้ สมมติว่า ผมต้องการซื้อ EUR ที่อัตราแลกเปลี่ยน ณ ปัจจุบัน EUR/USD =1.2750 เป็นจำนวน 100 $ ผมจึงใช้เงินของผม 1 $ บัญชีของผมเป็น Leverage 1:100 ดังนั้นผมต้องยืมโบรกเกอร์อีก 99$ เมื่อผมซื้อแล้ว ผมจะได้ EUR มา 78.43 Euro และเมื่อราคาขึ้นไป 1.2800 ผมได้ กำไร 50 pips ผมตัดสินใจขายยูโร ที่ผมซื้อมา จะได้ 78.43*1.2800=100.39 $ นี่คือกำไรของผม 100.39 $ แต่ผมได้ยืมโบรกเกอร์มา 99 $ ทางโบรกเกอร์จะหักเงินอัตโนมัติ แล้วที่เหลือก็คือ 1.39 $ สรุปคือ ถ้าได้กำไรมา 0.39 $ จากการเทรดเงิน 1 $ เมื่อราคาเคลื่อนที่ 50 pips
แต่ ปัจจุบันนี้ ทางโบรกเกอร์กำหนดให้เราแล้วว่าถ้าราคาเคลื่อนที่ไป 1 pip ถ้าเราซื้อ 1 $ เราจะได้ 0.01 $ ดังนั้นจากตัวอย่างข้างบน ได้มา 50 pips ผมจะได้เงิน 0.50$
Use Margin คือ จำนวนเงินที่เราใช้เทรดในแต่ละครั้ง
ความสัมพันธ์ระหว่าง Lot , Leverage และ Use Margin
ประเภทของบัญชีในการเทรด Forex จะมีอยู่หลายประเภท แต่ที่หลักๆ ที่ใช้กันคือมีสามประเภทคือ
1.Standard Account
2.Mini Account
3.Micro Account
ผมจะเทียบความสัมพันธ์ระหว่าง Lot , Leverage และ Use Margin ของ บัญชี Standard นะครับ
Leverage ความต้องการเทรด Use Margin
1:100 1 lot(100,000$) 1000$
1:200 1 lot(100,000$) 500$
1:400 1 lot(100,000$) 250$
การเทรด 1 Lot คือ การใช้ Use Margin 1000 ดอลล่า เพื่อที่จะเทรดฟอเร็กซ์ โดยใช้
Leverage 1:100 หมาย ความว่า คุณต้องมีเงินในบัญชีเทรดฟอเร็กซ์มากกว่า 1000 $ คุณจึงจะเทรดที่ 1 Lot ได้ และการเปลี่ยนแปลงต่อจุด ถ้าราคาเคลื่อนที่ไป 1 pips จะเท่ากับ 10 $ เพราะฉะนั้น ถ้าคุณมีเงินแค่ 1000 $ แล้วคุณปล่อยให้ลบ 100 pips บัญชีของคุณก็จะโดน Margin Call ทันที ถ้าคุณไม่มี Margin โบรกเกอร์ก็จะตัดทันที
Leverage 1 :200 สิ่งที่แตกต่างของ Leverage 1:200 คือ จำนวนเงินที่ใช้เทรด Use Margin จะน้อยกว่า 1:100 แต่ การเปลี่ยนแปลงต่อ 1 pip เท่ากับ 10 $ เหมือนกัน
ไม่ว่าคุณจะเล่นที่ Leverage เท่าไร การเปลี่ยนแปลงต่อ 1 pips ก็ยังคงเท่าเดิม ซึ่งตอนนี้บางโบรกเกอร์ สร้าง Leverage สูงๆ ขึ้นมาเพื่อให้พวก Scalper ที่เล่นสั้นๆ ลงเงินเยอะๆ อย่างเช่น Loeverage 1:1000 ถ้าคุณมีเงิน 1000 $ ในบัญชี คุณสามารถเทรด 5 Lot ได้ ซึ่งก็หมายความว่า คุณต้องการให้ได้กำไร 50 $ ต่อ pips แต่ถ้าราคาไม่เป็นดังที่คุณต้องการ ราคาลบไป 20 pips
พอร์ตของคุณก็จะเกลี้ยงทันที
ศึกษาข้อมูลได้ที่ http://siammetatrader.com/index.php/topic,69.0.html
แต่โบรกเกอร์ฟอเร็กให้ คุณยืมถึง 99 % ของทั้งหมดเพื่อให้คุณเปิดการเทรดและคุณก็ใช้มันเพียงแค่ 1 % เท่านั้น ถ้าคุณต้องการเทรด 1000$ คุณใช้มันเพียงแค่ 10 $ นี่แหระครับ คือความแตกต่างระหว่างตลาดหุ้นและตลาดฟอเร็กซ์ และตลาดฟอเร็กไม่ชาร์จกำไรจากการยืมของคุณด้วย
เอาล่ะครับ หลายๆคนอาจจะงง เรามาดูกันเลยครับ ว่า Leverage ที่โบรกเกอร์ฟอเร็กได้กำหนดไว้มีเท่าไรบ้าง
โดยส่วนมากโบรกเกอร์จะกำหนด Leverage ตั้งแต่
Leverage
1:1
1:2
1:10
1:100
1:200
1:400
1:500
1:1000 เฉพาะบางโบรกเกอร์ เท่านั้นเช่นโบรก Exness และ Instaforex
ผมจะยกตัวอย่างการเทรดที่ Leverage 1:100
สมมติ ว่าผมต้องการซื้อ EUR ที่ 100 units ผมจะใช้เงินของผม 1 units เท่านั้นเพื่อซื้อ EUR 100 units ถ้าซื้อ EUR/USD ที่ราคา 1.2750 เมื่อราคาขึ้นไปถึง 1.2800 ผลต่างของราคาเท่ากับ 50 pips ผมพอใจแล้ว ก็ทำการขาย ผมได้กำไร 50 pips
มาดูตัวอย่างการคำนวณครับ จากหัวข้อ เรื่อง Pips และ Lot ใครยังไม่ได้อ่านกลับไปอ่านนะครับ
(pip value / ราคาที่คุณปิด ) คูณด้วย Unit ที่คุณทำการ Buy Sell
=(0.001/1.2800)*100=0.39 $
หรือ ผมอาจจะคิดแบบนี้ สมมติว่า ผมต้องการซื้อ EUR ที่อัตราแลกเปลี่ยน ณ ปัจจุบัน EUR/USD =1.2750 เป็นจำนวน 100 $ ผมจึงใช้เงินของผม 1 $ บัญชีของผมเป็น Leverage 1:100 ดังนั้นผมต้องยืมโบรกเกอร์อีก 99$ เมื่อผมซื้อแล้ว ผมจะได้ EUR มา 78.43 Euro และเมื่อราคาขึ้นไป 1.2800 ผมได้ กำไร 50 pips ผมตัดสินใจขายยูโร ที่ผมซื้อมา จะได้ 78.43*1.2800=100.39 $ นี่คือกำไรของผม 100.39 $ แต่ผมได้ยืมโบรกเกอร์มา 99 $ ทางโบรกเกอร์จะหักเงินอัตโนมัติ แล้วที่เหลือก็คือ 1.39 $ สรุปคือ ถ้าได้กำไรมา 0.39 $ จากการเทรดเงิน 1 $ เมื่อราคาเคลื่อนที่ 50 pips
แต่ ปัจจุบันนี้ ทางโบรกเกอร์กำหนดให้เราแล้วว่าถ้าราคาเคลื่อนที่ไป 1 pip ถ้าเราซื้อ 1 $ เราจะได้ 0.01 $ ดังนั้นจากตัวอย่างข้างบน ได้มา 50 pips ผมจะได้เงิน 0.50$
Use Margin คือ จำนวนเงินที่เราใช้เทรดในแต่ละครั้ง
ความสัมพันธ์ระหว่าง Lot , Leverage และ Use Margin
ประเภทของบัญชีในการเทรด Forex จะมีอยู่หลายประเภท แต่ที่หลักๆ ที่ใช้กันคือมีสามประเภทคือ
1.Standard Account
2.Mini Account
3.Micro Account
ผมจะเทียบความสัมพันธ์ระหว่าง Lot , Leverage และ Use Margin ของ บัญชี Standard นะครับ
Leverage ความต้องการเทรด Use Margin
1:100 1 lot(100,000$) 1000$
1:200 1 lot(100,000$) 500$
1:400 1 lot(100,000$) 250$
การเทรด 1 Lot คือ การใช้ Use Margin 1000 ดอลล่า เพื่อที่จะเทรดฟอเร็กซ์ โดยใช้
Leverage 1:100 หมาย ความว่า คุณต้องมีเงินในบัญชีเทรดฟอเร็กซ์มากกว่า 1000 $ คุณจึงจะเทรดที่ 1 Lot ได้ และการเปลี่ยนแปลงต่อจุด ถ้าราคาเคลื่อนที่ไป 1 pips จะเท่ากับ 10 $ เพราะฉะนั้น ถ้าคุณมีเงินแค่ 1000 $ แล้วคุณปล่อยให้ลบ 100 pips บัญชีของคุณก็จะโดน Margin Call ทันที ถ้าคุณไม่มี Margin โบรกเกอร์ก็จะตัดทันที
Leverage 1 :200 สิ่งที่แตกต่างของ Leverage 1:200 คือ จำนวนเงินที่ใช้เทรด Use Margin จะน้อยกว่า 1:100 แต่ การเปลี่ยนแปลงต่อ 1 pip เท่ากับ 10 $ เหมือนกัน
ไม่ว่าคุณจะเล่นที่ Leverage เท่าไร การเปลี่ยนแปลงต่อ 1 pips ก็ยังคงเท่าเดิม ซึ่งตอนนี้บางโบรกเกอร์ สร้าง Leverage สูงๆ ขึ้นมาเพื่อให้พวก Scalper ที่เล่นสั้นๆ ลงเงินเยอะๆ อย่างเช่น Loeverage 1:1000 ถ้าคุณมีเงิน 1000 $ ในบัญชี คุณสามารถเทรด 5 Lot ได้ ซึ่งก็หมายความว่า คุณต้องการให้ได้กำไร 50 $ ต่อ pips แต่ถ้าราคาไม่เป็นดังที่คุณต้องการ ราคาลบไป 20 pips
พอร์ตของคุณก็จะเกลี้ยงทันที
ศึกษาข้อมูลได้ที่ http://siammetatrader.com/index.php/topic,69.0.html